ตัวอย่างที่ 1 HF, HNO2
, CH 3COOH , HClO4 , Ba(OH)2 ,
NH2+ , NH3
วิธีทำ
HF (g) + H2O (l) H3O+ (aq) + F- (aq)
HNO2 (l) + H2O (l) H3O+ (aq) + NO2- (aq)
CH3COOH (l) + H2O (l) H3O+ (aq) + CH3COO- (aq)
HClO4 (l) + H2O (l) H3O+ (aq) + ClO4- (aq)
Ba(OH)2 (s) + H2O (l) Ba2+ (aq) + 2OH- (aq)
NH4+ (aq) + H2O NH3 (aq) + H3O+ (aq)
NH3 (g) + H2O (l) NH4 + (aq) + OH- (aq)
หมายถึง เกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้า ไม่เกิดปฏิกิริยาย้อนกลับ
หมายถึง เกิดปฏิกิริยาไปข้างหน้าและปฏิกิริยาย้อนกลับ
ตัวอย่างที่
2 เพราะเหตุใดสารละลายที่ี่เกิดจากแคลเซียมไฮดรอกไซด์
Ca(OH)2 ละลายน้ำจึงเป็นเบส
แต่สารละลายเอทานอล
C2H5OH จึงไม่เป็นเบส
วิธีทำ
จะต้องพิจารณาดังนี้
1. โครงสร้างของพันธะเคมีของ Ca(OH)2 และ C2H5OH เป็นดังนี้
2. จากข้อ 1. ดังนั้น
Ca(OH)2 ละลายน้ำจะเกิดการแตกตัวดังนี้
Ca(OH)2(s) Ca2+ (aq) + 2OH- (aq)
ซึ่ง OH-(aq) ที่ได้จะแสดงสมบัติเป็นเบส
ส่วนเอทานอล
เมื่อละลายน้ำจะไม่แตกตัวให้
OH- (aq) เนื่องจากเป็นพันธะโคเวเลนต์
ดังนั้นจึงไม่มีส่วนใดที่จะแสดงสมบัติเป็นเบส
ตัวอย่างที่
3 สารละลายต่อไปนี้ี้ถ้านำมาทดสอบกับกระดาษลิตมัส
จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
น้ำปูนใส น้ำโซดา
วิธีทำ
น้ำปูนใส คือสารละลาย
Ca(OH)2 เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากแดงเป็นน้ำเงิน
Ca(OH)2(s) Ca2+ (aq) + 2OH- (aq)
น้ำโซดา คือสารละลายกรด
H2CO3 เกิดจากการรวมตัวของ
CO2 กับน้ำ เปลี่ยนสีกระดาษลิตมัสจากน้ำเงินเป็นแดง
CO2 (g) + H2O H2CO3 (aq)+H2O H3O+ (aq) + HCO3- (aq)
|