เอนไซม์ไนโตรเจเนส (Nitrogenase enzyme) รูปที่ 1 เป็นส่วนที่รับพลังงานจาก ADP/ATP รูปที่ 2 และ 3 เป็นโมเลกุลที่ประกอบด้วย เหล็ก (โมเลกุลสีแดง) และ ซัลเฟอร์จากโปรตีน (โมเลกุลสีเหลือง) (4Fe-4S complex) รูปที่ 4 เป็นส่วนของโปรตีนที่มี เหล็กและโมลิบดีนัม Fe- Mo ในโมเลกุล โดยเหล็ก (โมเลกุลสีแดง) โมลิบดีนัม (โมเลกุลสีดำ) ซัลเฟอร์จากโปรตีน (โมเลกุลสีเหลือง)
โมเลกุลของ Fe โปรตีน
โมเลกุลของ Fe-Mo โปรตีน จากการศึกษาคุณสมบัติของเอนไซม์ไนโตรจีเนสโดยการสกัดแยกเอนไซม์จากแบคทีเรียที่สามารถตรึงไนโตรเจนได้ 20 ชนิด แต่มีการศึกษา 5 ชนิดได้แก่ Rhizobium lupine , R.japonicum , Klebsiell . pneumoniae, Clostridium pasteurianum และ Azospirillum vinelandii โดยแต่ละตัวสามารถสร้างโปรตีน ได้ 2 ชนิด คือ โปรตีนที่มีเหล็กอยู่ในโมเลกุล และอีกชนิดโปรตีนที่มีเหล็กและโมลิบดีนัมอยู่ใน โมเลกุลซึ่งโปรตีนทั้งสองจะมีความว่องไวต่อออกซิเจนโดยเฉพาะโปรตีนที่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบจึงเป็นจุดที่น่าสนใจว่าโปรตีน เหล่านี้สามารถค้นพบได้ในสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีวิตนอกจากนี้เอนไซม์ยังสามารถถ่ายเทอิเล็กตรอนได้ โดยมีกระบวนการที่ซับซ้อนเนื่องจากจำนวนการเกิดปฏิกิริยารีดอกซ์ของโลหะที่สามารถรับและถ่ายอิเล็กตรอนได้อธิบายได้จาก การกระจายตัวของอิเล็กตรอนในระบบสมดุลของ แนวโน้มในการเกิดปฏิกิริยารีดักชันอาจจะเกิดได้ในค่าความเป็นกรด-เบส หรืออุณหภูมิต่างๆ และในสารตั้งต้น ตัวยับยั้งที่ต่างกันด้วยทั้งหมดอธิบายได้โดยการใช้เทคนิคทางสเปกโทรสโคปี
ไนโตรเจเนส คอมเพล็ก (รหัสของเอนไซม์ คือ E.C.1.-.-.- oxidoreductases.E.C.1.18.-.-
acting on iron-sulfur proteins as donors.E.C.1.18.6.- With dinitrogen
as acceptor.) เป็นเอนไซม์ที่ใช้ในการตรึงไนโตรเจน ซึ่งมีส่วนประกอบหลัก
2 ส่วน คือ dinitrogenase reductase และ dinitrigenase |