ในทวีปยุโรปเมื่อ 500 ปีก่อน ลีโอนาร์โด ดา วินชี (Leonardo da Vinci) ศิลปินเอกของโลก ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วง พ.ศ. 1995-2062 ได้ทำการผ่าศพมนุษย์กว่า 30 ศพ เพื่อศึกษาระบบกล้ามเนื้อและกระดูกอย่างละเอียด สำหรับใช้ในการวาดภาพคนเหมือนจริงในงานจิตรกรรมรับใช้คริสตศาสนาและภาพวาดบุคคลทั่วไป เราอาจมองว่านี่เป็นการลงทุนที่มากเกินความจำเป็น แต่ก็เป็นเบื้องหลังแห่งความสำเร็จในการวาดภาพ เวอร์จินออฟเดอะร็อค (The Virgin of the Rocks) ภาพชุดพระแม่และบุตรกับเซนต์แอนน์ (Virgin and Child with St Anne) และภาพโมนาลิซ่า (Mona Lisa) ที่มีความยอดเยี่ยมทั้งในด้านทักษะการวาดภาพ การให้แสงเงา และการสร้างเค้าโครงตามความเป็นจริง |
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
|||
|
|||
กล้ามเนื้อลายที่ประกอบขึ้นเป็นโครงสร้างของร่างกายยึดติดกับกระดูกด้วยเอ็น
(tendon) ซึ่งเป็นแถบหนาสีขาวขุ่น เอ็นที่ช่วยยึดกล้ามเนื้อน่องเข้ากับกระดูกส้นเท้า
มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Achilles tendon |
|||
|
|||
เทพเจ้าอะพอลโลซึ่งเป็นเทพผู้พิทักษ์เมืองทรอยได้บอกความลับเรื่องจุดอ่อนในร่างกายอะคิลิสให้เจ้าชายปารีสรู้ เพื่อจะกำจัดมหาบุรุษกรีกผู้นี้ แล้วอะคิลิสก็จบชีวิตลงด้วยการถูกลอบยิงที่ส้นเท้าด้วยลูกธนูอาบยาพิษ |
|||
|
|||
คำว่า Achilles heel ยังคงเป็นศัพท์ที่ติดมาใช้ในปัจจุบัน แปลว่า จุดอ่อนที่ทำให้พ่ายแพ้ได้ ชื่อเรียกเอ็นส้นเท้า Achilles tendon ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2236 โดยแฟร์ไฮย์เดน (Verheyden) นักกายวิภาคชาวดัตช์ผู้ซึ่งทำการศึกษาเรื่องเอ็นส้นเท้าจากเท้าของเขาเองที่ถูกตัดทิ้งไป |
|||
|
|||
คนไทยเรียกเอ็นส้นเท้าว่า เอ็นร้อยหวาย ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ ทาสในสมัยก่อนจะถูกเจาะเนื้อตรงช่วงระหว่างเอ็นส้นเท้ากับตาตุ่มแล้วเอาหวายร้อย ทาสหลายๆ คนจะถูกร้อยโยงติดกันไว้ เพื่อไม่ให้หลบหนีไปไหนต่อไหนได้ และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อ เอ็นร้อยหวาย ภาคคนไทย |