

 |
สเปคตรัม
(spectrum) ของสาร
คือการแสดงความสามารถในการดูดแสงของสารที่ความยาวคลื่นต่างๆ กันของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า |
 |
สารที่มีสี
คือสารที่ดูดแสงได้บางส่วนหรือทั้งหมดของความยาวคลื่นของแสงที่มีสีหรือแสงที่ตามองเห็น
(visible) คือประมาณ 400-700
นาโนเมตร (nm) |
 |
สเปคตรัมของสารที่มีสีจึงเป็นกราฟที่มียอด
มีเนิน มีที่ราบและเหวที่แสดงว่าที่ความยาวคลื่นใด สารตัวนั้นๆ ดูดแสงได้ดีเพียงใด
ยอดที่สูง ณ ตำแหน่งหนึ่งๆ แสดงถึงความสามารถในการดูดแสงที่ความยาวคลื่นนั้น
ที่ราบหรือเหว แสดงถึงความสามารถดูดแสงที่ต่ำ ดังแสดงในรูปที่ 1.6 |
 |
การวัดสเปคตรัมของสารทำได้โดยใช้เครื่อง spectrophotometer
(โปรดคลิกเพื่อดูรายละเอียดในvideo
clip) |

รูปที่
1.6 สเปคตรัมของคลอโรฟิลล์ a
และคลอโรฟิลล์ b

สเปคตรัมของคลอโรฟิลล์
a และ b ต่างกันอย่างไร
และมีผลต่อการสังเคราะห์ด้วยแสงอย่างไร

สเปคตรัมของทั้งคลอโรฟิลล์
a และ b มีส่วนที่เป็นยอด
หมายถึงดูดแสงได้ดี คือที่ความยาวคลื่นประมาณ 420-460
nm คือในช่วงแสงสีน้ำเงิน และ 630-660 nm คือในช่วงแสงสีแดง
และมีลักษณะเป็นที่ราบซึ่งหมายถึงการดูดแสงได้ไม่ดีในช่วงคลื่น 480-620
nm ซึ่งเป็นช่วงคลื่นแสงสีเขียว-เหลือง (รายละเอียดดังรูปที่
1.8) ฉะนั้น สารคลอโรฟิลล์จึงมีสีเขียวอมเหลือง เพราะดูดแสงนี้ (เขียว-เหลือง)
ได้ไม่ดี แต่ดูดแสงสีน้ำเงินและแดงไว้ได้หมดหรือเกือบหมด ส่วนแสงสีเขียว-เหลืองจะถูกสะท้อนออกไปหรือทะลุผ่านใบไม้ไป
ดังนั้น คลอโรฟิลล์จึงมีสีเขียว เพราะโมเลกุลของคลอโรฟิลล์ a
และ b ใช้อิเล็กตรอนดูดแสงที่มีสีในช่วงคลื่นสีน้ำเงินและแดงได้ดีกว่าช่วงคลื่นแสงอื่นๆ
มาก
แม้คลอโรฟิลด์จะดูดแสงได้ดีที่ช่วงคลื่นสีน้ำเงินและสีแดงก็ตาม แต่พืชสามารถใช้พลังงานจากแสงในช่วงคลื่นใดๆ
ก็ได้ตั้งแต่ 400 nm ถึงประมาณ 700
nm ดังแสดงในรูปที่ 1.7

รูปที่
1.7 ความสามารถในการสังเคราะห์ด้วยแสงเมื่อพืชได้รับแสงที่ความยาวคลื่นแสงแต่ละคลื่น

ท่านอธิบายได้ไหมว่าทำไมความสามารถในการสังเคราะห์ด้วยแสงของพืชที่ความยาวคลื่นต่างๆ
จึงไม่เท่ากัน

ความสามารถในการดูดกลืนแสงของสารสีชนิดต่างๆ
มีแสดงดังในรูปที่ 1.8

รูปที่
1.8 ความสามารถในการดูดกลืนแสงของสารสีชนิดต่างๆ
จากสเปคตรัมที่แสดงในรูปที่ 1.8 ท่านคิดว่าสารสีต่อไปนี้มีสีอะไร
เพราะอะไร
- แคโรทีน
- ไฟโคไซยานิน
- ไฟโคอิริทริน
|