ไกลโคลิซีสสลายกลูโคสให้เป็นไพรูเวต |
||
ไกลโคลิซีสเป็นกระบวนการสลายกลูโคส
ซึ่งเป็นสารอินทรีย์ที่มีคาร์บอน 6 อะตอม ให้เป็นน้ำตาลที่มีคาร์บอน 3 อะตอม 2 โมเลกุล รวมทั้งการเกิดออกซิเดชันของน้ำตาลที่มี คาร์บอน 3 อะตอมนั้นให้เป็นไพรูเวต |
||
แต่ละขั้นตอนเกิดขึ้นโดยอาศัยการทำงานของเอนไซม์ที่มีความจำเพาะเจาะจง ปฏิกิริยาทั้งหมดอาจแบ่งออกเป็นสองขั้นตอนหลัก ในขั้นแรกเป็นขั้นที่ต้องใช้ ATP ประกอบขึ้นด้วย ปฏิกิริยา 5 ขั้น ขั้นตอนหลังเป็นขั้นที่ให้ ATP ออกมา ประกอบด้วยปฏิกิริยาอีก 5 ขั้น ปฏิกิริยา ทั้งหมดในวิถีไกลโคลิซีสถูกค้นพบตั้งแต่ ค.ศ. 1940 โดยมีที่มาจากการศึกษาของ นักวิทยาศาสตร์ หลายกลุ่ม เช่น กลุ่มของ Gustav Embden กลุ่มของ Otto Myerhof และกลุ่ม ของ Jacob Panus |
||
ปฏิกิริยา 5 ขั้นตอนแรกเริ่มจากปฏิกิริยาของเอนไซม์ เฮกโซไคเนส (hexokinase) ซึ่งใช้ ATP เพื่อเปลี่ยนกลูโคสให้เป็น กลูโคส-6-ฟอสเฟต (glucose-6-phosphate) ซึ่ง เปลี่ยนเป็น ฟรุคโตส-6-ฟอสเฟต (fructose-6-phosphate) เอนไซม์ฟอสโฟฟรุคโตไคเนส (phosphofructokinase) จะเปลี่ยนฟรุคโตส-6-ฟอสเฟต ให้เป็น ฟรุคโตส-1,6-บิสฟอสเฟต (fructose-1,6-bisphosphate) ซึ่งแตกตัวเป็นสารที่มีคาร์บอนสามอะตอมสองชนิด คือ กลีเซอรอลดีไฮด์-3-ฟอสเฟต (glyceraldehydes-3-phosphate) และไดไฮดรอกซีอะซี โตนฟอสเฟต (dihydroxyacetonephosphate) โดยอาศัยการเร่งของเอนไซม์อัลโดเลส ปฏิกิริยาขั้นสุดท้ายของช่วงแรก เป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นไปพร้อมกับขั้นที่ 4 คือไดไฮดรอกซี อะซีโตนฟอสเฟตจะเปลี่ยนแปลงไปเป็น กลีเซอรอลดีไฮด์-3-ฟอสเฟต โดยใช้เอนไซม์ ไตรโอสฟอสเฟตไอโซเมอเรส (triosephosphate isomerase) |
||
รูปที่ 7.3 วิถีไกลโคลิซีส |
||
ปฏิกิริยา
5 ขั้นตอนหลังเริ่มด้วยกลีเซอรอลดีไฮด์-3-ฟอสเฟต ทำปฏิกิริยากับ |
||
ไกลโคลิซีสเป็นปฏิกิริยาที่ไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าจะมีออกซิเจน หรือไม่มีก็ตาม ถ้ามีออกซิเจนในเซลล์ ไพรูเวตก็จะถูกออกซิไดส์ต่อโดยวัฏจักรเครบส์ ส่วน NADH ที่เกิดขึ้นก็จะถูกนำไปใช้ในระบบขนส่งอิเล็กตรอนและการสร้าง ATPแบบออกซิเดทีฟ ฟอสโฟริเลชัน ถ้าไม่มีออกซิเจนไพรูเวตก็จะถูกเปลี่ยนเป็นเอธานอล หรือเปลี่ยนเป็นแลกเตต โดยกระบวนการหมัก รวมทั้ง NADH ที่เกิดก็จะถูกใช้ไปในกระบวนการหมักโดยตรงด้วย |
||