มีการเปลี่ยนแปลงปรากฏขึ้นทั้งในนิวเคลียสและไซโทพลาซึม โดยในนิวเคลียส นิวคลี-
โอลัส (nucleolus: เป็นโครงสร้างที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการลอกแบบเพื่อสร้าง ribosomal RNA
และประกอบ ribosomal RNA นี้เข้ากับโปรตีนอีกหลายชนิดเพื่อสร้างเป็นหน่วยย่อย (subunit)
ของไรโบโซม) เริ่มสลายตัวจนไม่ปรากฏให้เห็นเมื่อเซลล์เข้าสู่ช่วงท้ายของระยะนี้ เส้นใย
โครมาทินขดตัวมากขึ้นเป็นโครโมโซมแต่ยังไม่ชัดเจนเท่ากับในระยะเมทาเฟส โครโมโซม
แต่ละแท่งประกอบด้วยโครมาทิด 2 เส้น ติดกันอยู่ที่เซนโทรเมียร์ เรียกโครมาทิด 2 เส้นนี้ว่า
ซีสเตอร์โครมาทิด (sister chromatids) ในไซโทพลาซึม เซนโทรโซมทั้งสองอันจะเริ่ม
เคลื่อนไปยังคนละขั้วเซลล์ และในขณะเดียวกันจะมีไมโครทูบูลยืดยาวออกจากบริเวณ
เซนโทรโซม ในช่วงท้ายของระยะนี้เยื่อหุ้มนิวเคลียสเริ่มสลายทำให้ไมโครทูบูลบางส่วน
ยืดเข้ามาในบริเวณนิวเคลียสและจับกับโครโมโซมตรงตำแหน่งไคนีโทคอร์ (kinetochore)
ซึ่งเป็นโครงสร้างร่วมกันระหว่างโปรตีนกับดีเอ็นเอบริเวณเซนโทรเมียร์ของซีสเตอร์โครมาทิด
แต่ละแท่ง เพื่อความสะดวกและความถูกต้องของการแยกซีสเตอร์โครมาทิดออกจากกัน
ไคนีโทคอร์แต่ละอันจะถูกยึดด้วยไมโครทูบูลที่สร้างจากเซนโทรโซมที่มาจากคนละขั้ว
ของเซลล์ส่วนไมโครทูบูลอีกส่วนหนึ่งจะยึดระหว่างเซนโทรโซมกับเยื่อหุ้มเซลล์บริเวณใกล้
ขั้วเซลล์ และไมโครทูบูลอีกส่วนหนึ่งจะยื่นเข้ามาในบริเวณนิวเคลียสแต่ไม่ยึดกับโครโมโซม
ผลจากการจับระหว่างไมโครทูบูลกับโครโมโซมทำให้เกิดการดึงโครโมโซมไปมา เพื่อให้
โครโมโซมเคลื่อนเข้าสู่บริเวณที่เรียกว่าเมทาเฟสเพลท (metaphase plate)





รูปที่ 1.18 การแบ่งเซลล์ในระยะโพรเฟส










: คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเซลล์ ถ้าในระยะโพรเฟสไม่มีการสลายของ
  เยื่อหุ้มนิวเคลียส




: คุณคิดว่าเพราะเหตุใด จึงไม่สามารถสังเกตเห็นนิวคลีโอลัสในช่วงท้าย
  ของระยะโพรเฟส