จากรูปที่
2.4 ที่ความยาวคลื่นประมาณ 250 nm จะให้ค่า max ดังนั้นที่
ความยาวคลื่นนี้จะเรียกว่า max ในการเลือกความยาวคลื่นสำหรับการวัดการดูดกลืน
แสงของสารนิยมวัดที่ max เพราะมีค่า มากสุด ดังนั้นค่าการดูดกลืนแสงก็จะสูง
แต่ในทางปฏิบัติ เราไม่จำเป็นต้องเลือกวัดที่ max ก็ได้ ในกรณีที่ max นั้นอาจให้
ค่าการดูดกลืนแสงที่สูงจนเกินไปไม่เหมาะกับช่วงความเข้มข้นที่เราศึกษา
ซึ่งเราสามารถเลือกที่ อื่นๆ ได้ตามความเหมาะสม
การที่เราทราบค่า molar absorptivity ของสารจะมีประโยชน์มากในทาง
ปฏิบัติการจริง โดยเฉพาะในกรณีที่สารมีราคาแพงมาก
หรือมีความเป็นพิษสูง
เพราะเราสามารถคำนวณช่วงความเข้มข้นของสารได้เลยว่า
ช่วงความเข้มข้น
เท่าไหร่สารจะมีค่าการดูดกลืนอยู่ในช่วงการใช้งานปกติ
(working range)
ซึ่งโดยทั่วไปนิยมวัดให้ค่าการดูดกลืนอยู่ในช่วง 0.11.0
โดยไม่จำเป็นต้องเตรียม
ความเข้มข้นต่างๆ มาทดลองวัดค่าการดูดกลืน ยกตัวอย่างเช่น
Example นำสารละลายนิกเกิลที่มีความเข้มข้น 1.50 x 10-4 M มาใส่ในเซลล์
ที่มีความกว้าง 1.000 cm แล้ววัดค่าการดูดกลืน ที่
592 nm อ่านค่าได้ 1.338
จงหาว่าเราควรจะเตรียมสารละลายมาตรฐานนิกเกิลให้มีความเข้มข้นในช่วงใด
ค่าการดูดกลืนของนิกเกิลจะอยู่ในช่วงการใช้งานปกติ (A = 0.1-1.0)
Solution 1.
หา 592 :
A
= 592cl
1.338
= 592 (1.000cm)( 1.50x10-4M) 592 = 8920 L mol-1 cm-1
2.
หาช่วงการใช้งานปกติ (A = 0.1-1.0)
A
= 592cl
0.100
= 8920(1.000cm)(c)
c
= 1.12x10-5 M
A
= 592cl
1.000
= 8920(1.000cm)(c)
c = 1.12x10-4 M
ดังนั้นควรเตรียมสารละลายมาตรฐานในช่วง
1.12x10-5 M ถึง 1.12x10-4 M