เราอาจใช้เคยใช้ซอฟต์แวร์หลาย
ๆ รูปแบบโดยไม่รู้ตัว แต่ละวันเราแทบจะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ใช้ซอฟต์แวร์ไม่ได้เลย
วันนี้ มาดูกันว่าซอฟต์แวร์ที่เราเคยใช้ ทั้งทางตรงและทางอ้อมแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้
8 กลุ่มดังนี้ครับ
System software
เป็นกลุ่มของโปรแกรมที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้บริการหรือช่วยซอฟต์แวร์ตัวอื่นทำงานได้ง่าย
เช่น คอมไพเลอร์ ตัวแก้ไขโปรแกรม editor โปรแกรมจัดการไฟล์
ระบบปฏิบัติการ ไดร์เวอร์ ซอฟต์แวร์เพื่อการติดต่อสื่อสารในเครือข่าย
เป็นต้น
Real-time
software เป็นโปรแกรมที่คอยตรวจ วิเคราะห์
หรือควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ที่เราเรียกว่า real-time
เพราะเหตุการณ์นั้น ๆ เกิดในขณะนั้นจริง เช่น โปรแกรมควบคุมการทำงานของเครื่องจักร
หุ่นยนต์ ระบบนำทางของรถยนต์ เป็นต้น โปรแกรมพวกนี้จะเก็บรวบรวมข้อมูลจากสิ่งแวดล้อมที่กำหนดไว้
แล้วทำการวิเคราะห์ และแปลงไปสู่รูปแบบข้อมูลที่นำไปประมวลผลต่อได้
หลังจากประมวลผลแล้ว โปรแกรมจะโต้ตอบสิ่งแวดล้อมภายนอกตามคำสั่งควบคุมที่ได้จากการประมวลผล
การโต้ตอบกลับนี้ต้องเป็นแบบ real-time (ปกติเวลาที่ถือว่าเป็น
real time อยู่ในช่วง 1 มิลลิวินาที ถึง 1 วินาที )
Business
software
เป็นซอฟต์แวร์ที่ประมวลผลกับข้อมูลจำนวนมากทางธุรกิจ เช่น
โปรแกรมประมวลผลการซื้อขายPOS (point of sale transaction
processing- เครื่องนี้เราจะเห็นได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าในการคิดราคาสินค้าจาก
barcode และพิมพ์ใบเสร็จ) โปรแกรมบัญชีเงินเดือน (payroll),
บัญชีรับจ่าย โปรแกรมการลงทุน หุ้น โปรแกรมการทำเหมืองข้อมูล
(data mining) ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบการจัดการสารสนเทศ (Management
information system) มักจะเป็นการจัดการกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่หลาย
ๆ ฐานข้อมูล โปรแกรมเหล่านี้จะจัดการกับข้อมูลให้อยู่ในโครงสร้างหรือรูปแบบที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในธุรกิจ
Engineering
and Scientific software
โปรแกรมที่ทำงานด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์ มักจะมีวิธีการจัดการกับตัวเลขจำมาก
โปรแกรมพวกนี้ได้แก่โปรแกรมที่ประมวลผลสิ่งที่อยู่สูง คือดวงดาวและอวกาศ
จนถึงโปรแกรมที่คำนวณสิ่งที่อยู่ใต้ดินคือคำนวณการเกิดภูเขาไฟ
คำนวณการเคลื่อนที่ของยานอวกาศ จนถึงกระบวนการทำงานของชีวโมเลกุลเลยทีเดียว
แต่ในปัจจุบันนี้ซอฟต์แวร์ในด้านวิศวกรรมและวิทยาศาสตร์มักจะเป็นโปรแกรมช่วยในการออกแบบการทดลอง
โปรแกรมจำลองการทำงานของระบบ และเป็น Real-time มากขึ้น
Embedded
software
ปัจจุบันนี้ผลิตภัณฑ์อัตโนมัติต่างๆ มีใช้กันทั่วไปทั้งในกลุ่มผู้บริโภคและตลาดอุตสาหกรรม
ผลิตภัณฑ์จำพวกนี้มีโปรแกรมฝังอยู่ในหน่วยความจำแบบอ่านได้อย่างเดียว
read only memory เพื่อควบคุมการทำงานของอุปกรณ์นั้น ๆ จึงทำให้อุปกรณ์เหล่านั้นทำงานได้จำกัด
เช่น โปรแกรมที่มีในเครื่องซักผ้าสามารถควบคุมเวลาและขั้นตอนการซักอัตโนมัติ
เตาไมโครเวฟที่ตั้งเวลาในการทำอาหารได้ รถยนต์มีโปรแกรมควบคุมระบบเบรค
ระบบน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น
Personal
Computer software
ซอฟต์แวร์สำหรับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใ ช้ในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ทั่ว
ๆ ไปตามวัตถุประสงค์ของผู้ใช้ ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีที่ได้แก่โปรแกรมประมวลผลคำ
โปรแกรมคำนวณแบบตาราง โปรแกรมทำงานกับรูปภาพ บันเทิงต่าง ๆ
การจัดการฐานข้อมูล โปรแกรมเครือข่าย โปนแกรมธุรกิจ เป็นต้น
Web-based
software
เว็บเป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถนำไปแสดงผลได้โดยโปรแกรมที่เรียกว่า
browser ในเว็บมีคำสั่งต่าง ๆ ที่ใช้จัดรูปแบบการแสดงผลข้อความ
รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว ต่าง ๆ และภายในเว็บเองก็สามารถบรรจุข้อมูลที่สามารถนำไปประมวลผลต่อได้ด้วย
ข้อมูลบนเว็บมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทั้งในปัจจุบันและในอนาคตเนื่องจากเป็นแหล่งสื่อสารแลกเปลี่ยนข้อมูล
Artificial
software
โปรแกรมด้านปัญญาประดิษฐ์ เป็นโปรแกรมที่จัดการกับปัญหาซับซ้อน
ไม่สามารถคิดหาคำตอบจากการคำนวณอย่างตรงไปตรงมาได้ ต้องใช้เความรู้เพิ่มเติมจากการคำนวณ
นั่นคือ ความรู้เชิงฮิวริสติก (Heuristics) ทั้งนี้เพราะการที่จะใช้
วิธีการที่ให้ได้ผลสมบูรณ์จริง ๆ นั้น จำเป็นต้องอาศัยความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ของผู้เชี่ยวชาญที่เคยใช้วิธีการนั้น
ๆ ในการปฏิบัติจริง ตัวอย่างโปรแกรมด้านปัญญาประดิษฐ์ เช่น
ระบบผู้เชี่ยวชาญ โปรแกรมประมวลผลภาษาธรรมชาติ (โปรแกรมแปลภาษา
ตรวจสอบไวยากรณ์ ฯลฯ) โปรแกรมรู้จำเสียง การรู้จำภาพ โปรแกรมพิสูจน์ทฤษฎี
เกม
|