กระบวนการเกิดของดินเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลา แต่จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับขั้นตอนของ
การเกิด
ซึ่งมีลำดับดังนี้
ขั้นที่ 1 การสลายตัวและผุพัง (weathering) การสลายตัวจะเกิดขึ้นมากหรือน้อยเพียงใด
ขึ้นกับสภาวะแวดล้อม ลมฟ้าอากาศ สภาพภูมิประเทศ และการกระทำของสิ่งมีชีวิต ซึ่งจะมีผลต่อ
การสลายตัวของดินทั้งทางเคมีและทางกายภาพ ทำให้อนินทรีย์วัตถุสลายตัวได้วัตถุต้นกำเนิดดิน
(parent materials) และอินทรียวัตถุเกิดการสลายตัวได้ฮิวมัส (humus)
ขั้นที่ 2 การทับถมและการผสมคลุกเคล้าของอินทรียวัตถุจากบริเวณผิวหน้าดิน
ทำให้เกิดชั้นดินต่างๆ ขึ้นมา โดยปัจจัยที่จะช่วยเสริมให้เกิดการทับถมและการผสมคลุกเคล้าดังนี้คือ
ลักษณะของภูมิอากาศ สิ่งมีชีวิตทุกชนิด ความสูงต่ำของพื้นที่ วัตถุต้นกำเนิดดิน และเวลา
รูปที่ 4.3 ภาคตัดขวางของดิน ซึ่งแสดงให้เห็นการทับถมของดิน
ดินมีความแตกต่างกันในลักษณะของความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อปริมาณ
ผลผลิตทาง
การเกษตรและทั้งความสูงต่ำของพื้นที่ ซึ่งมีเนื้อดินที่มีความแตกต่างกัน เช่นบางพื้น
ที่เป็นดินเหนียว
บางพื้นที่เป็นดินร่วน บางพื้นที่เป็นดินทราย เป็นต้น ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นกับ
ดินจึงมีมากมาย โดยอาจจะจำแนก
เป็นหัวข้อได้ดังนี้
1. ความเหมาะสมในการผลิต พิจารณาได้จากความเหมาะสมของชนิดพืชกับคุณภาพและ
องค์ประกอบของดิน โดยปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ผลผลิตที่ได้รับไม่คุ้มค่ากับทุนที่ลงไปและเกิดปัญหาอื่นๆ
ตามมาอีกมากมาย
2. ความเสื่อมโทรมความเสื่อมโทรมของดิน เกิดจากการปฏิบัติต่อดินของมนุษย์เป็นส่วนใหญ่
ซึ่งท้ายที่สุดผลของการกระทำของมนุษย์จะส่งผลกระทบกลับมายังมนุษย์ในรูปแบบของการไม่สามารถใช้
ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรมในการเพิ่มผลผลิต ทำให้ต้องเสียเวลาในการปรับปรุงให้ดินนั้นกลับคืนสู่
สภาพเดิม
3. การบำรุงรักษาและการป้องกันแก้ไข มนุษย์จะรับรู้เพียงว่าดินมีประโยชน์อย่างไร แต่มักจะ
ละเลย
ในการบำรุงรักษา การป้องกัน
และการแก้ไข ซึ่งเกิดจากการที่ผลกระทบของจากดินไม่ได้ส่งผล
โดยตรงทันที
ต่อมนุษย์ก็ได้
4. การทำลายทรัพยากรดิน เป็นผลโดยตรงจากการเพิ่มประชากร
การเปลี่ยนแปลงสภาพ
เศรษฐกิจและสังคม ทำให้เกิดความต้องการในการใช้ทรัพยากรมากขึ้น ทำให้มีการ
ทิ้งวัตถุดิบ
สารเคมีอินทรีย์ สารเคมีอนินทรีย์ จากกระบวนการผลิต รวมทั้งการทิ้ง
สิ่งของที่ใช้แล้วลงสู่ดิน
รูปที่ 4.4 ปัญหาที่เกิดกับดิน
|