สาเหตุของการเกิดมลพิษทางดินส่วนใหญ่เกิดจากมนุษย์
ที่ใช้ประโยชน์จากสารเคมีด้านต่างๆ
1. การใช้ปุ๋ยทางวิทยาศาสตร์
เพื่อเพิ่มผลผลิตทางเกษตรแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ
ปุ๋ยเคมีที่ประกอบด้วยธาตุหลักสำคัญของพืช ได้แก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P)
และโพแตสเซียม (K)
เมื่อใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ดินเปรี้ยว มีสภาพความเป็นกรดสูงไม่เหมาะสมแก่การปลูกพืช
ทั้งนี้อาจมีปัจจัยอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องคือ การเพาะปลูกที่ไม่ถูกวิธีทำให้ดินเกิดการเสื่อมโทรม
หรืออาจเกิด
จากธรรมชาติเป็นผู้ทำลายทรัพยากรดินได้
2. การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
(pesticides) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีฤทธิ์ทำลายสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
ไม่ว่าจะเป็นชนิดที่ให้ประโยชน์หรือโทษต่อการเกษตรกรรม แม้แต่ผลกระทบต่อมนุษย์ด้วย
สารเคมี
ที่สลายตัวได้ช้าจะตกค้างในดิน เช่นสารประเภทคลอริเนเตตไฮโดรคาร์บอนหรือออร์กาโนคลอรีน
(organochlorine) เป็นที่สารประกอบด้วยอะตอมคลอรีน (Cl) ได้แก่ ดีดีที
(DDT) ที่ใช้ในการเพาะปลูก
การควบคุมการแพร่ระบาดของมาลาเรีย และการควบคุมแมลงอื่นๆ, ดิลดรีน (dieldrin)
ที่ใช้ในกำจัดแมลง
ในการเกษตรและ กำจัดปลวก, อัลดรีน (aldrin) ที่ใช้ในการเพาะปลูก กำจัดปลวกและแมลง
การสะสมของ
สารเคมีที่ใช้กำจัดศัตรูพืชต่างๆ จะทำให้เกิดมลพิษทางดินต่อไป
3. การปล่อยให้น้ำเสียจากกระบวนการผลิต
น้ำเสียส่วนใหญ่ที่มาจากกระบวนการเหล่านี้จะเกิดการ
ชะล้างผ่านสารเคมีต่างๆ ในอุตสาหกรรม เช่น สารพีซีบี (PCB) ที่ใช้ในการผลิตสีและพลาสติก
สารเอชซีบี (HCB) ที่ใช้ในการผลิตยางสังเคราะห์
์
4. การทิ้งขยะ มลพิษทางดินส่วนใหญ่เกิดจากการทิ้งขยะที่เกิดจากสารเคมีซึ่งยากต่อการย่อยสลาย
เช่น กระป๋อง เศษโลหะ และพลาสติก ขยะเหล่านี้จะสะสมในดินจนทำให้เกิดภาวะมลพิษทางดิน
นอกจากนี้ปริมาณขยะที่เพิ่มขึ้นหากไม่มีการกำจัดที่ถูกวิธีจะส่งผลกระทบให้เกิดมลพิษทางดินมากขึ้น
รูปที่ 4.6 สาเหตุของการเกิดมลพิษทางดิน
|