CTP นี้เป็นผลผลิตสุดท้ายของปฏิกิริยา จะเป็นถ้าในเซลล์มีปริมาณของ CTP มาก มันก็จะไปจับที่บริเวณ allosteric binding site ทำให้เกิดการยับยั้งหรือชะลอการทำงานของเอนไซม์นี้ เรียกการควบคุมแบบนี้ว่า การควบคุมทางลบ (negative feedback control) ในทางตรงกันข้าม ATP จะแย่งจับที่บริเวณนี้แทนถ้า CTP ในเซลล์มีปริมาณน้อย
จากรูปภาพจะเห็นได้ว่าเอนไซม์แอสพาเตส ทรานคาร์บาร์โมอีเลส มีโครงสร้างที่เป็น regluratory subunit และ catalytic subunit อย่างละ 6 หน่วยย่อยเมื่อเอนไซม์อยู่ในสภาวะของ T state แต่ละหน่วยย่อยของเอนไซม์จะอยู่ชิดติดกัน ทำให้ซับสเตรตไม่สามารถเข้าจับที่บริเวณเร่งในหน่วยเร่งปฏิกิริยาได้ แต่ถ้าเอนไซม์อยู่ในสภาวะ R state หน่วยย่อยของเอนไซม์จะเปิดออกทำให้บริเวณเร่งเปิดรับซับสเตรตเพื่อให้เกิดปฏิกิริยาได้ ในที่นี้โมเลกุลรูปไข่สีฟ้าแทน CTP ซึ่งจับที่บริเวณ allosteric binding site ในหน่วยควบคุม ส่วนโมเลกุลรูปไข่สีแดง แทน ATP เมื่อจับที่บริเวณ allosteric จะทำให้เอนไซม์เปลี่ยนไปอยู่ในรูปของ R state
isomeric system หรือ isoenzymes เป็นระบบการควบคุมแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการทำงานของเอนไซม์ที่เป็นไอโซเมอร์ และเร่งปฏิกิริยาแบบเดียวกัน ตัวอย่างที่รู้จักกันดีคือ แลคเตต ดีไฮโดรจีเนส (lactate dehydrogenase: LDH : EC 1.1.1.27) ประกอบด้วยหน่วยย่อย 2 ชนิด ที่เรียกว่า H และ M รวมกันเป็นโครงสร้างของเอนไซม์ 4 หน่วยย่อย หน่วยย่อยเหล่านี้จะทำหน้าที่เหมือนกัน ในเซลล์กล้ามเนื้อแต่ละชนิดจะมีปริมาณหน่วยย่อยในเอนไซม์ไม่เท่ากัน ในกล้ามเนื้อหัวใจจะมีหน่วยย่อยชนิด H มาก ในกล้ามเนื้อลายทั่วไปจะพบว่ามีหน่วยย่อยชนิด M มาก เอนไซม์ชนิดนี้จะเร่งปฏิกิริยาการเปลี่ยนไพรูเวตให้เป็นแลคเตต หรือ แลคเตสให้เป็นไพรูเวต ตามสมการ
แต่ความสามารถในการทำงานของไอโซเอนไซม์แต่ละชนิดจะต่างกันเล็กน้อย คือ LDH-M4 ซึ่งพบในกล้ามเนื้อ จะมีค่า Km ต่ำ ทำให้เร่งปฏิกิริยาเปลี่ยนไพรูเวตให้เป็นแลคเตตได้ดี แต่ในทางตรงกันข้าม LDH-H4 ที่พบในกล้ามเนื้อหัวใจจะมีค่า Km สูง จึงไม่ชอบผลิตแลคเตสนัก ( อีกทั้งในกล้ามเนื้อหัวใจจะมีปริมาณก๊าซออกซิเจนมากพอ จึงเปลี่ยนไพรูเวตที่ได้จากการสลายกลูโคสต่อไปเป็นคาร์บอนไดออกไซด์และน้ำได้ (การหายใจระดับเซลล์) )
นอกจากนี้เอนไซม์บางชนิดที่ไม่ใช่เอนไซม์ควบคุมก็มีกลายหน่วยย่อยได้เช่นกัน เช่น ATP synthase ที่เร่งปฏิกิริยาการสร้าง ATP (สนใจศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่งนี้ได้จากแผ่นซีดีเสริมการเรียนรู้เรื่อง มหัศจรรย์นาโนเทคโนโลยี)