|
||||
โปรตีนเป็นมหโมเลกุล
ที่ประกอบด้วยสายของกรดอะมิโน (amino acid) เรียกสายนี้ ว่าพอลิเพปไทด์ (polypeptide) กรดอะมิโนมี 20 ชนิด โดยมีโครงสร้างที่เหมือนกัน คือ หมู่อะมิโน (-NH2) และหมู่คาร์บอกซิล (-COOH) ส่วนที่แตกต่างกันคือหมู่ R (R group) กรดอะมิโนสามารถยึดกันได้ด้วยพันธะเพปไทด์ (peptide bond) โดยเกิดปฏิกิริยา ดีไฮเดรชัน(dehydration) ระหว่างหมู่อะมิโนและหมู่คาร์บอกซิล โปรตีนที่พบในสิ่งมีชีวิต แต่ละชนิดมีคุณสมบัติจำเพาะในการทำหน้าที่โดยบางชนิดมีลักษณะเป็นเส้นใย (fibrous) เช่น เส้นใยคอลลาเจน (collagen fiber) เส้นใยอีลาสติก (elastic fiber) ทำหน้าที่ด้านโครงสร้าง ของสิ่งมีชีวิต โปรตีนบางชนิดมีลักษณะเป็นก้อนกลม ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาภายใน เซลล์ เช่น เอนไซม์ (enzyme) ชนิดต่างๆ และบางชนิดทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้กับ สิ่งมีชีวิต เช่น แอนติบอดี (antibody) |
||||
รูปที่ 2.23 ภาพโครงสร้างกรดอะมิโน |
||||
รูปที่ 2.24 โครงสร้างสายพอลิเพปไทด์ |
||||
|
||||
http://academic.brooklyn.cuny.edu/biology/bio4fv/page/prot_gb.htm | ||||
รูปที่ 2.25 โครงสร้างกรดอะมิโน 20 ชนิด |
||||
|
||||
http://www.people.virginia.edu/~rjh9u/aminacid.html | ||||
โมเลกุลโปรตีนสามารถแบ่งตามลักษณะความซับซ้อนของโครงสร้างได้ 4 ประเภท คือ | ||||
3.1 โครงสร้างระดับแรก (primary structure)
มีลักษณะเป็นสายยาวเกิดจากหน่วยย่อย กรดอะมิโนมาต่อเชื่อมกัน |
||||
3.2 โครงสร้างระดับที่สอง (secondary structure) มีลักษณะเป็นสายพอลิเพปไทด์ที่บิด เป็นเกลียว ได้แก่ เกลียวแอลฟา (alpha helix) ซึ่งเกิดจากพันธะไฮโดรเจนยึดสายพอล ิเพปไทด์ในสายเดียวกัน และชนิด แผ่นบีตา (beta pleated sheet) ที่เกิดจากพันธะไฮโดรเจน ที่ยึดระหว่างสายพอลิเพปไทด์ |
||||
3.3 โครงสร้างระดับที่สาม (tertiary structure) เป็นโครงสร้างสามมิติเกิดจากพันธะ หลายชนิด เช่น พันธะไฮโดรเจน พันธะไดซัลไฟด์ พันธะที่เกิดจากขั้วบวกและขั้วลบ (พันธะไอออน) ยึดระหว่างสายพอลิเพปไทด์สายเดียวกันหรือระหว่างสาย ทำให้เกิดการขดตัว บิดพับเป็นโครงสร้างทรงกลมสามมิติ |
||||
3.4 โครงสร้างระดับที่สี่ (quaternary structure) ประกอบด้วยพอลิเพปไทด์มากกว่า 1 สาย ขึ้นไปโดยแต่ละสายอาจมีโครงสร้าง ปฐมภูมิ ทุติยภูมิ หรือตติยภูมิ มาจัดเรียงตัวเป็น โครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้น เช่น โมเลกุลฮีโมโกลบิน (hemoglobin) ซึ่งประกอบด้วย พอลิเพปไทด์ชนิดแอลฟา ( chain) 2 สาย และสายบีตา ( chain) 2 สาย โดยแต่ละสาย ของแอลฟาและบีตาจะมีโมเลกุลของฮีม (heme) อยู่บริเวณใจกลางซึ่งแต่ละโมเลกุลของฮีม สามารถจับโมเลกุลของออกซิเจนในกระแสเลือดได้ 1 โมเลกุล ดังนั้น 1 โมเลกุลของ ฮีโมโกลบินในกระแสเลือดจะสามารถพาออกซิเจนได้ 4 โมเลกุล |
||||
รูปที่ 2.26 โครงสร้างของโปรตีน |
||||
|
||||
http://baen.tamu.edu/ | ||||
รูปที่ 2.27 โมเลกุลฮีโมโกลบินซึ่งประกอบด้วยสายโปรตีนชนิดโกลบิน
4 สาย คือสายแอลฟา 2 สาย และสายบีตา 2 สาย โดยแต่ละสายมีหมู่ฮีม 1 หมู่ เป็นองค์ประกอบ |
||||
|
||||
http://www.people.virginia.edu/ |
||||