ารจัดวางเครือข่าย

                การจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ในเครือข่าย มี 2 ลักษณะคือ

1. การจัดวางเครือข่ายแบบรวมศูนย์ (centralized network layout)

                เป็นการจัดวางอุปกรณ์ที่สำคัญ ๆ เช่น ไฟล์เซิร์ฟเวอร์ พรินต์เซิร์ฟเวอร์ และดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ ไว้ในบริเวณเดียวกัน โดยสามารถใช้ได้กับโทโพโลยีแบบวงแหวน แบบดาว และแบบผสม

                การบริหารเครือข่าย ทำได้ง่ายกว่าการจัดวางรูปแบบอื่นเพราะเซิร์ฟเวอร์ต่าง ๆ จะอยู่ที่เดียวกัน นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูง เพราะสามารถจัดอุปกรณ์ต่าง ๆ ไว้ในห้องหรือบริเวณที่ปิดล็อคได้

                การสำรองข้อมูล ซึ่งเป็นงานที่สำคัญของผู้บริหารเครือข่าย (administrator) เพราะการสำรองข้อมูลจะช่วยให้สามารถดึงข้อมูลกลับมาใช้ได้อีกครั้ง ในกรณีข้อมูลในเครือข่ายเกิดเสียหายหรือสูญหายไปด้วยสาเหตุต่าง ๆ การสำรองข้อมูลที่เก็บไฟล์ไว้ที่เดียว จะทำได้ง่ายกว่าการสำรองในเครื่องผู้ใช้แต่ละคน

                เสถียรภาพของระบบ ถ้าเครือข่ายเกิดเสียขึ้นมาจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ในเครือข่าย ซึ่งจะต้องมีการสร้างเซิร์ฟเวอร์สำรองที่เรียกว่า เซิร์ฟเวอร์กระจก (mirror server) ให้ทำงานควบคู่ไปกับเซิร์ฟเวอร์หลัก เพื่อในกรณีที่เซิร์ฟเวอร์หลักเสียจะได้ใช้เซิร์ฟเวอร์กระจกนี้แทนก่อนได้

                ค่าใช้จ่าย จะค่อนข้างสูง เนื่องจากจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องเซิร์ฟเวอร์ที่มีสมรรถนะดีที่สุด เพื่อที่จะรองรับการทำงานกับผู้ใช้จำนวนมากได้

2. การจัดวางเครือข่ายแบบกระจาย (distributed network layout)

                เป็นการจัดวางอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามหน้าที่ของอุปกรณ์นั้น เช่น ในแต่ละแผนกก็จะมีไฟล์เซิร์ฟเวอร์และพรินต์เซิร์ฟเวอร์เป็นของแผนกเอง เป็นต้น ซึ่งสามารถใช้ได้กับโทโพโลยีทุกประเภท

                สมรรถนะ เครือข่ายที่จัดวางแบบกระจายสามารถใช้งานหนัก ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยการกระจายงานไปให้คอมพิวเตอร์ในเครือข่ายช่วยกันประมวลผล เช่น เครือข่ายงานออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนสูง จะใช้คอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งในการคำนวณ ส่วนอีกเครื่องหนึ่งในการประมวลผลข้อมูล และอีกเครื่องหนึ่งใช้ในการพิมพ์ข้อมูล เป็นต้น

                การบริหารเครือข่าย การบริหารเครือข่ายที่จัดวางแบบกระจายค่อนข้างยากกว่าการบริหารเครือข่ายที่จัดวางแบบรวมศูนย์ เพราะทรัพยากรจะวางกระจายไปยังส่วนต่าง ๆ ของเครือข่าย

                การสำรองข้อมูล จะค่อนข้างลำบากกว่าการจัดวางแบบรวมศูนย์ เพราะเครื่องต่าง ๆ อยู่กระจายกัน โดยมากผู้ใช้มักจะมีอุปกรณ์สำรองข้อมูลเป็นของตัวเอง เช่น อุปกรณ์สำรองข้อมูลแบบพกพา เป็นต้น

                เสถียรภาพของระบบ มีค่อนข้างสูง เพราะถึงแม้ว่าจะมีคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสีย มันก็จะกระทบกับเครื่องอื่นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

                ค่าใช้จ่าย จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าแบบรวมศูนย์ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ราคาแพง แต่คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในเครือข่ายที่มีการจัดวางแบบนี้ ต้องใช้เครื่องที่มีสมรรถนะสูงกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วไป

 
     
   
 



























 





 
     
 
 
<< กลับ | สื่อส่งข้อมูล >>
 
   

Copyright © 2004 Institute for Innovation and Development of Learning Process.  All rights reserved.