รูปผลึก (crystal) หมายถึง ของแข็งที่มีระนาบเรียบ เนื่องจากลักษณะของผลึกที่เกิดขึ้นมีการจัดเรียงของแกนและรูปทรงที่แตกต่างกัน จึงมีการแบ่งผลึก ออกเป็น 6 ระบบด้วยกัน ซึ่งระบบผลึก (crystal system) เหล่านี้จะทำให้สามารถจัดกลุ่มของแร่ได้

           ระบบผลึกทั้ง 6 มีดังนี้

           • isometric system คือ ระบบที่มีแกน 3 แกนเท่ากัน และตัดกันที่กึ่งกลางเป็นมุมฉาก

 


ภาพที่ 2.9 แสดง
แกนแบบ isometric system

          แร่พวกนี้จะมีลักษณะเป็นรูปลูกเต๋า เช่น แร่กาลีน่า (PbS), เพชร (C) และ ไพไรต์ (FeS2)

 


          • tetragonal system  คือ ระบบที่มีแกน 3 แกน  ตัดตั้งฉากกันที่กึ่งกลาง 2  แกนยาวเท่ากัน   ส่วนแกนที่ 3 อาจจะยาวกว่าหรือสั้นกว่าก็ได้

 


ภาพที่ 2.10 แสดงแกนแบบ
tetragonal system

          แร่ในระบบนี้ เช่น แร่ดีบุก (SnO2), พลอยเพทาย (Al2O3), พลอยรูไทล์ (TiO2) และ เซอร์คอน (ZrSiO4)


          • orthorhombic system คือ ระบบที่มีแกน 3 แกน ตั้งฉากกันที่กึ่งกลาง แกนทั้ง 3 ยาวไม่เท่ากัน

 


ภาพที่ 2.11 แสดงแกนแบบ
orthorhombic system

          หน้าตัดทุกด้านจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เช่น แบไรต์ (BaSO4), โทแพส (Al2SiO4(OH,F)2), กำมะถัน (S)

 


          • monoclinic system คือระบบที่มีแกน 3 แกน ไม่เท่ากัน 2 แกนตั้งฉากกัน ส่วนแกนที่ 3 ตัดทำมุมกับ 2 แกนแรกและไม่ตั้งฉากกับ 2 แกนแรก

 


ภาพที่ 2.12 แสดงแกนแบบ
monoclinic system

          ตัวอย่างของระบบนี้ได้แก่ ยิปซัม (CaSO4•2H2O), ออร์โทเคลส (KNaAlSi3O8), แอนตาลูไซด์ (Al2SiO5)

 


          • triclinic system คือ ระบบที่มีแกน 3 แกนไม่เท่ากันและตัดไม่ตั้งฉากกันเลย

 


ภาพ 2.13 แสดงแกนแบบ
triclinic system

         แร่ไมโครไคลน์ คาลแคนไทต์ เนฟไฟรต์ เป็นตัวอย่างของระบบนี้

 


         • hexagonal system คือ ระบบที่มีแกน 4 แกน 3 แกนอยู่ในแนวราบ ยาวเท่ากัน และตัดทำมุม 60 องศา ซึ่งกันและกัน แกนที่ 4 ยาวหรือสั้นกว่าก็ได้และตั้งฉากกับ 3 แกนแรก

 


ภาพ 2.14 แสดงแกนแบบ
hexagonal system

          ตัวอย่าง เช่น ควอตซ์ (SiO2), คอรันดัม (Al2O3), ทัวมาลีน (Na(Mg,Fe+2,Mn,Li,Al)3Al6•(BO3)3Si6O18(OH,F)4, เบริล (Be3Al2Si6O18) เป็นต้น


         ความโปร่งแสง (transparency)
ปริมาณของแสงที่ผ่านแร่เป็นตัววัดความโปร่งแสงของแร่ มีแร่บางชนิดที่ยอมให้แสงผ่านได้และแร่ที่ทึบอาจจะให้แสงผ่านได้บ้างหรือไม่ให้ผ่าน สิ่งที่มักทำให้แร่เกิดความขุ่นมัว หรือโปร่งแสงน้อยลง ได้แก่ การแตกของแร่หรือตำหนิ (flaws) สิ่งแปลกปลอมในแร่ (inclusions) และสิ่งที่เจือปนอยู่ในแร่ (impurities) สิ่งพวกนี้จะทำให้สมบัติความโปร่งแสงเปลี่ยนไป