ต่อมใต้สมองส่วนกลาง
(pars intermedia หรือ Intermediate lobe) ส่วนใหญ่ในมนุษย์ต่อมนี้ไม่ทำงาน
ฝ่อไปแล้ว แต่ในสัตว์พบว่าต่อมใต้สมองส่วนกลาง และคอร์ติโคโทรฟ
(corticotroph) ของต่อมใต้สมองส่วนหน้าสามารถสร้างโมเลกุลตั้งต้น
ซึ่งถูกตัด (cleaved) เป็นฮอร์โมนได้หลายตัว รู้จักในชื่อโพรโอพิโอเมลาโนคอร์ติน
(proopiomelanocortin เรียกย่อว่า POMC ) และสร้างได้ที่ไฮโพทาลามัส
ปอด กระเพาะ ลำไส้ และรก
ฮอร์โมนที่หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนกลาง
คือ เมลาโนไซท์ สติมูเลติง ฮอร์โมน (melanocyte
stimulating hormone เรียกย่อว่าMSH) สร้างจากเซลล์เมลาโนไซท์
(melanotropic cell)
ในพาร์สอินเตอร์มีเดียของต่อมใต้สมอง เป็นพอลิเปปไทด์ฮอร์โมนประกอบด้วยกรดอะมิโน
35 - 41 หน่วย ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้มีการสร้างเม็ดสีเมลานิน (melanin
pigment ) ที่ผิวหนัง โดยกระตุ้นการกระจาย ของเมลานิน (melanin)
ในเมลาโนไซท์ (melanocyte ) ถ้าขาด MSH ผิวหนังจะซีดขาว ถ้า
MSH มากเกินไปผิวหนังจะเข้มดำ
มีบางรายงานได้กล่าวถึงบทบาทของMSH
ว่ากดความรู้สึกเจริญอาหารในสมอง โดยพบว่าผู้ที่อ้วนมากๆ
จะมีการผ่าเหล่าหรือมีสารพันธุกรรมที่สร้างMSH เปลี่ยนไป ส่วนหน้าที่อื่นๆยังไม่ทราบแน่ชัด
และเนื่องจากในมนุษย์ต่อมใต้สมองส่วนนี้ฝ่อไปแล้ว ดังนั้น MSHที่ตรวจได้จึงเป็นเปปไทด์ที่หลั่งจากต่อมใต้สมองส่วนหน้าที่ได้จากการสลาย
ACTH
ในเซลล์คอร์ทิโคโทรฟ
( corticotroph) การสังเคราะห์ POMC จะถูกเปลี่ยนเป็น ACTH และเบตาไลโปโทรฟิน
( β- lipotrophin : β -LPH) และบางส่วนของเบตา เอนดอร์ฟิน
(β endorphin) มีฤทธิ์เป็นสารกล่อมประสาท และมีการสร้างเมลาโนโทรปิน
แอลฟา (melanotropins a)และ เบตา
เอ็ม เอส เอซ ( β MSH) ทั้งα -MSH และ β- MSH
ไม่พบในมนุษย์
การควบคุมสีผิว
(control of skin coloration)
ปลา สัตว์เลื้อยคลาน
และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ เปลี่ยนสีผิวเพื่อควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
พรางตา และแสดงการดึงดูดเพศตรงข้าม ซึ่งเกิดจากการเคลื่อนที่หรือขับเม็ดสีดำ
หรือน้ำตาล เล็กๆออก หรือเข้าไปในเซลล์ที่เรียกว่า เมลาโนฟอร์
(melanophore) สารเม็ดเล็กๆนี้เรียกว่าสารมีสีดำหรือเมลานิน
(melanin) สร้างจากโดปา (dopa) และโดปาควินโนน
(dopaquinone) การเคลื่อนที่ของสารมีสีเล็กๆนี้ถูกควบคุมโดยฮอร์โมน
และสารสื่อประสาทหลายชนิดได้แก่ α-MSH, β - MSH,
เมลาโทนิน และแคททีโคลามีน
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่มีเมลาโนฟอร์
(melanophore) ที่จะมารวมกัน หรือกระจายออกไปได้เหมือนสัตว์เหล่านี้
แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีเซลล์ เมลาโนไซท์ (melanocyte) ซึ่งสร้างเมลานินได้
พบว่าการให้ MSH ในผู้ป่วยจะกระตุ้นการสร้างเมลานิน ซึ่งทำให้ผิวเข้มขึ้นได้ใน
24 ช.ม. แม้ว่า α- MSH และ β - MSH จะใช้ไม่ได้ในมนุษย์
แต่เมลาโนไซท์ จะมีเมลาโนโทรบินซึ่ง ACTH จะสามารถจับกับตัวรับนี้และกระตุ้นให้ผิวเข้มขึ้นได้
การมีสีผิวเข้มขึ้นในมนุษย์
การเปลี่ยนสีผิวที่เกิดจากโรคทางต่อมไร้ท่อในมนุษย์ส่วนใหญ่เกิดจากการไหลเวียนของ
ACTH ถ้าผิวซีดมักเกิดจากการทำงานของไฮโพทาลามัสน้อย ถ้าผิวเข้มมักพบในผู้ป่วยที่เป็นโรคของต่อมหมวกไตทำงานน้อย
นอกจากนี้พบว่าผิวหนังเป็นแหล่งผลิต ACTH และ MSH จากโมเลกุลของPOMC ที่สำคัญ
ฮอร์โมนเหล่านี้มีผลต่อรากขน (hair follicles) ต่อมน้ำมัน (sebaceous glands) และระบบภูมิคุ้มกันที่ผิวหนัง
ผิวเผือกหรือเอาไบโน
(albino) พบได้ในมนุษย์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ผิวเผือกหลายชนิด
เกิดจากภาวะที่ไม่สามารถสร้างเมลานินตั้งแต่เกิด อาจเกิดจากโรคทางพันธุกรรม ซึ่งมักเกิดจากการผิดพลาดหรือการผ่าเหล่าของการสร้างเมลานินผิวเผือกมี
2 ประเภท คือ
ไพบอลดิซึม
(piebaldism) เป็นผิวเผือกที่เกิดตั้งแต่เป็นตัวอ่อนในครรภ์มารดา
เนื่องจากเซลล์ เม็ดสีออกจากเซลล์ที่เจริญไปเป็นระบบประสาท (neural crest) ในระยะตัวอ่อน ซึ่งภาวะนี้สามารถถ่ายทอดไปยังลูกหลานได้ ส่วนไวทิลิโก ( vitiligo) เป็นผิวเผือกที่เกิดจากสาเหตุเดียวกันแต่มีอาการภายหลังการคลอดแล้ว
ทารกที่ไม่สามารถสร้างเมลานินตั้งแต่เกิด
(piebaldism)
ผู้ไหญ่ที่ไม่สามารถสร้างเมลานินได้
(vitiligo)
การสร้างเม็ดสีเมลานิน
(melanin pigment ) ที่ผิวหนัง โดยกระตุ้นการกระจายของเมลานิน
(melanin) ในเมลาโนไซท์ (melanocyte ) ถ้าขาด MSH ผิวหนังจะซีดขาว
ถ้า MSH มากเกินไปผิวหนังจะเข้มดำ
การหลั่ง
MSH ถูกกระตุ้นโดยเมนาโนไซท์ สติมิวเลติงฮอร์โมนรีลีสซิงแฟคเตอร์
(melanocyte stimulating hormone releasing factor : MSH-RF)ถูกยับยั้งโดยเมนาโนไซท์
สติมิวเลติงฮอร์โมนอินฮิบิติงแฟคเตอร์ (melanocyte stimulating
hormone inhibiting factor : MSH-IF)
|