Forum

แบ่งปัน:
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

การศึกษาตามแนววิริยะ The Education base on Viriya

1 โพสต์
1 ผู้ใช้
0 Reactions
408 เข้าชม
IL Admin
(@il-admin)
Reputable Member Admin
เข้าร่วม: 7 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 134
หัวข้อเริ่มต้น  

       ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรหรือในวงการใด คนเราเวลาทำอะไรแล้วคงไม่มีใครอยากจะล้มเหลว อยากประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องการศึกษา ผู้ศึกษาเองก็ต้องการประสบความสำเร็จในการศึกษาเล่าเรียน อยากมีความรู้ความสามารถจนใครๆ ก็ยอมรับ เรียกว่าไม่มีใครอยากเป็นคนโง่ในสายตาคนอื่นนั่นเอง

        อนึ่ง ในเรื่องความโง่กับความฉลาดน้อยในวงการการศึกษานั้นดูเหมือนจะยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ เพราะเกณฑ์วัดความฉลาดหรือการวัดความไม่โง่มักใช้เครื่องวัดไอคิวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องไอคิวเพียงอย่างเดียวยังไม่สามารถวัดเพื่อตัดสินความไม่โง่หรือความฉลาดของคนเราได้ เพราะที่ผ่านมา ในสังคมมีหลายคนจบการศึกษาสูงๆ มีตำแหน่งทางวิชาการพ่วงยาวเหยียดเป็นหางว่าว แต่ก็ถูกคนอื่นดูถูกเหยียดหยามว่าไม่ฉลาดหรือโง่ก็มี ดังนั้น เรื่องความโง่กับความไม่โง่ของคนเรานี้ ในทางการศึกษาเรามักวัดกันด้วยการจบการศึกษา และการศึกษาที่ว่านี้ต้องเป็นไปอย่างมีหลักเกณฑ์ด้วย การที่กล่าวเช่นนี้ เพราะเรื่องการศึกษาในปัจจุบันนี้ได้เป็นที่โต้แย้งถกเถียงกันในหลายเวที ดังปรากฎเป็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ว่าเรียนจบถึงปริญญาโทและปริญญาเอกก็ยังไปลงทะเบียนคนจนเพื่อขอรับสวัสดิการจากรัฐ ดังนั้น คนที่มีการศึกษาระดับนี้ยังต้องมาลงทะเบียนคนจนเพื่อขอรับสวัสดิการอีกอยู่ใช่ไหม หรือจริงๆ แล้ว ระดับการศึกษาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเป็นคนจนหรือคนรวยเลย เรียกว่าการศึกษาก็เป็นอีกเรื่อง ส่วนความเป็นคนจนหรือคนรวย ก็เป็นอีกหนึ่งสถานภาพ แต่ถ้าหากคิดเช่นนี้ ก็แสดงว่าการศึกษาไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์กับชีวิตความเป็นอยู่และ
เป็นไปของคนเราเลย ส่วนถ้ามีความสัมพันธ์หรือเกี่ยวข้องกันอยู่ ก็ย่อมพูดได้ว่าการเป็นอะไรและเป็นอย่างไรของคนเรานั้นการศึกษาย่อมมีอิทธิพลอยู่มาก

        ตามความเป็นจริงแล้ว เรื่องการศึกษานี้ ไม่ว่าจะเป็นระดับใด ล้วนต้องอาศัยความเพียรพยายามเป็นอย่างยิ่งในการศึกษาเล่าเรียน ดังนั้น คนที่ได้ชื่อว่าจบการศึกษาในระดับนั้นๆ ส่วนหนึ่งต้องมีความอุตสาหะอยู่ไม่มากก็น้อยแน่นอน แต่อาจจะมีบางคนแย้งว่าการศึกษาทุกวันนี้ เรียนๆ เล่นๆ ไปเดี๋ยวก็จบไปเอง หรือบางที อาจารย์ที่สอนก็ไล่ให้จบ เพราะระบบบังคับให้จบนั่นเอง หากนักศึกษาไม่จบ อาจารย์หรือสถาบันการศึกษา ก็จะไม่มีผลงาน สำหรับสถานการณ์ทางการศึกษาในปัจจุบัน การจบการศึกษาของคนไทยมีปัจจัยให้ต้องจบอยู่หลายประการ เช่น บางคนไม่อยากจบ แต่ก็ถูกไล่ให้จบ หรือบางคนอยากจบ แต่กว่าจะจบได้เลือดตาแทบกระเด็น ฉะนั้น เรื่องการศึกษากับเรื่องจบการศึกษา ตลอดถึงเรื่องความรู้ความสามารถของผู้ศึกษานั้น ถ้าเป็นการศึกษาเพื่อการศึกษาจริงๆ ย่อมต้องไม่มีข้อสงสัยอะไรเลย เพราะการศึกษานั้นย่อมช่วยบ่มเพาะคนให้มีศักยภาพไปในตัวอยู่แล้ว ลำพังที่จะให้จบไปบนพื้นฐานของการไม่มีความรู้ความเข้าใจย่อมเป็นเรื่องยากอยู่มาก ได้แก่ การศึกษาที่แท้จริงนั้นย่อมเกิดขึ้นจากการมีความเพียรพยายามอย่างเหมาะสมกับสถานภาพของตนเอง คือ เมื่อศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาหรือระดับอุดมศึกษาย่อมต้องใช้ความเพียรพยายามไม่น้อยกว่ากัน ไม่ใช่ว่าเรียนระดับประถมศึกษาแล้วจะใช้ความเพียรพยายามน้อยกว่า หรือเรียนในระดับอุดมศึกษาแล้วต้องใช้ความเพียรพยายามมากกว่า แต่ส่วนมากคนในสังคมมักจะคิดกันเช่นนั้น เมื่อคนเราคิดอย่างนั้นแล้ว จึงทำให้เกิดชนชั้นทางการศึกษา แยกคนโง่ออกจากคนโง่กว่า แยกคนฉลาดกับคนฉลาดกว่าออกจากกัน เช่นเดียวกัน ก็มีการแยกคนมีการศึกษากับคนไม่มีการศึกษาออกจากกันอีก ในเรื่องนี้ ความจริงจะเป็นเช่นไร การศึกษาที่แต่ละสถาบันจัดการกันอยู่ย่อมเป็นคำตอบได้ สรุปแล้ว การศึกษาที่เป็นการศึกษาเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในสังคมอย่างแท้จริงต้องเป็นการศึกษาที่เกิดจากความเพียรพยายามเข้าถึงองค์ความรู้ในสาขาวิชาที่ต้องการศึกษาจริงๆ ของผู้เรียน เพราะองค์ความรู้ที่เขาได้จากการร่ำเรียนศึกษานั้นจะช่วยให้ชีวิตอยู่รอดปลอดภัยและมีความสุขได้โดยมิต้องเป็นภาระของคนอื่นและสังคม และต่อไปเราก็จะไม่เห็นปรากฏการณ์ที่ขัดแย้งกันเองระหว่างการศึกษากับคนที่จบการศึกษาจนต้องมีการเอารัดเอาเปรียบกัน

 

 

เรื่องโดย ดร.มนัสวี ศรีนนท์ สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ ม.มหิดล


   
อ้างอิง
แบ่งปัน:
1,395,857 views since 16 August 2018