Forum

แบ่งปัน:
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

วิจัยในชั้นเรียน: กุญแจสู่การพัฒนาวิชาชีพอาจารย์ตามกรอบมาตรฐาน TH-PSF

1 โพสต์
1 ผู้ใช้
0 Reactions
77 เข้าชม
(@piyachat)
Eminent Member
เข้าร่วม: 6 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 9
หัวข้อเริ่มต้น  

ในยุคที่โลกและสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การศึกษาไทยต้องปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการและบริบทใหม่ ๆ ของผู้เรียน ครูไม่สามารถยึดติดกับวิธีการสอนแบบเดิมที่เน้นการถ่ายทอดเนื้อหาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เนื่องจากผู้เรียนในปัจจุบันมีความหลากหลายทั้งทางความรู้พื้นฐาน ทักษะ และความสนใจ ดังนั้นการพัฒนาการเรียนรู้ที่มีคุณภาพจึงจำเป็นต้องอาศัยการสะท้อนคิดอย่างลึกซึ้ง (reflection) และการปฏิบัติบนฐานหลักฐานเชิงประจักษ์ (evidence-based practice) เพื่อปรับปรุงการสอนอย่างต่อเนื่อง ในบริบทนี้ การวิจัยในชั้นเรียน (Classroom Action Research) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ครูสามารถพัฒนาวิชาชีพและยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างเป็นระบบ

การวิจัยในชั้นเรียน: เครื่องมือเรียนรู้ของครูมืออาชีพ

การวิจัยในชั้นเรียน หมายถึง กระบวนการที่ครูทำหน้าที่เป็น “ผู้ปฏิบัติที่ทำวิจัย (practitioner-researcher)” ศึกษาและพัฒนาการสอนของตนเองผ่านวงจรการทำงานอย่างเป็นระบบ ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนหลัก 4 ขั้นตอน ได้แก่

  • วางแผน (Plan)กำหนดปัญหาการสอนและแนวทางแก้ไข
  • ปฏิบัติ (Act) นำแผนไปทดลองใช้ในห้องเรียน
  • สังเกต (Observe) เก็บรวบรวมข้อมูลและผลลัพธ์
  • สะท้อน (Reflect) - วิเคราะห์และปรับปรุงวิธีการสอนอย่างต่อเนื่อง

กระบวนการนี้ขับเคลื่อนด้วย การสะท้อนคิดเชิงลึก (critical reflection)” ที่ครูต้องกล้าตั้งคำถามกับสมมติฐานและแนวปฏิบัติของตนเอง รับฟังข้อมูลสะท้อนจากผู้เรียน และเปิดรับข้อเสนอแนะจาก “critical friends” หรือเพื่อนร่วมวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างคุณภาพและความเป็นมืออาชีพอย่างยั่งยืน

ตัวอย่างกรณีศึกษา: การพัฒนาการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา

จากการสอนในระดับบัณฑิตศึกษา ผู้สอนได้นำแนวคิดการวิจัยในชั้นเรียนมาปรับใช้ในการสอนเรื่อง “การเขียนแผนการเรียนรู้โดยเพิ่มกิจกรรม Peer Review ซึ่งให้นักศึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับร่างแผนการเรียนรู้ของตนกับเพื่อนร่วมชั้น และนำข้อเสนอแนะมาแก้ไขปรับปรุงแผนของตนเอง

การประเมินคุณภาพแผนการเรียนใช้ Rubric โดยคณะผู้สอนและเพื่อนร่วมชั้นช่วยกันประเมินก่อนและหลังทำกิจกรรม Peer Review รวมถึงการเก็บข้อมูลการสะท้อนคิดของผู้เรียน ผลการวิจัยพบว่า

  • คุณภาพแผนการเรียนรู้ดีขึ้นชัดเจน
  • นักศึกษากว่า 90% เห็นว่ากิจกรรม Peer Review ช่วยเพิ่มทักษะการสะท้อนคิดและการเรียนรู้ร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ผู้เรียนมีการเรียนรู้เชิงรุกและความมั่นใจในตนเองมากขึ้น

ผลสะท้อนนี้ ทำให้ผู้สอนตัดสินใจเพิ่มกิจกรรม Peer Review เป็นส่วนหนึ่งของการสอนในหัวข้ออื่น ๆ ต่อเนื่อง ส่งเสริมการเรียนรู้ที่มีส่วนร่วมและเป็นระบบมากขึ้น

การเชื่อมโยงกับกรอบมาตรฐานวิชาชีพครูไทย (TH-PSF)

กรอบมาตรฐานวิชาชีพครูไทย (TH-PSF) กำหนดคุณลักษณะและสมรรถนะหลักของครูใน 3 มิติ ได้แก่

  • ความรู้วิชาชีพ (Professional Knowledge)ครูต้องมีความรู้ลึก ทั้งด้านวิชาการ การสอน และการจัดการเรียนรู้
  • การปฏิบัติวิชาชีพ (Professional Practice)ครูสามารถออกแบบ จัดการ และประเมินการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อผลลัพธ์ของผู้เรียน
  • คุณลักษณะวิชาชีพ (Professional Attributes)ครูต้องมีเจตคติที่ดี ค่านิยมที่เหมาะสม และมุ่งมั่นต่อการพัฒนาผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง

การวิจัยในชั้นเรียน สนับสนุนมิติทั้งสามนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยการ

  • เสริมความรู้วิชาชีพ ด้วยข้อมูลเชิงหลักฐานจากบริบทการสอนจริง
  • พัฒนาการปฏิบัติวิชาชีพ ผ่านการวิเคราะห์และพัฒนาการปฏิบัติอย่างเป็นระบบเพื่อส่งผลลัพธ์ต่อผู้เรียนที่ชัดเจน
  • ยกระดับคุณลักษณะวิชาชีพ ด้วยการสะท้อนคิดและการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมวิชาชีพช่วยยกระดับคุณลักษณะทางวิชาชีพและสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ผลลัพธ์ที่ชัดเจนต่อห้องเรียนและครู

เมื่อวิจัยในชั้นเรียนกลายเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติ ครูจะสามารถปรับวิธีสอนให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของผู้เรียน ห้องเรียนจึงกลายเป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมและสามารถพัฒนาศักยภาพตนเองได้เต็มที่ ขณะเดียวกัน ครูเติบโตทั้งด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ และความมั่นใจในการตัดสินใจเชิงวิชาชีพ นำไปสู่การสอนมีคุณภาพและยั่งยืน ตอบสนองต่อกรอบ TH-PSF นอกจากนี้ ผลกระทบระยะยาวของการวิจัยในชั้นเรียนยังช่วยสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่เน้นหลักฐานเชิงประจักษ์ ลดช่องว่างระหว่างทฤษฎีกับการปฏิบัติจริง และส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพครู

ทำไมต้องเป็น "วิจัยในชั้นเรียน"?

  • เป็นส่วนหนึ่งของงานสอน: ผสานเข้ากับการสอนในชีวิตประจำวันโดยไม่เพิ่มภาระ
  • มุ่งเน้นผลลัพธ์ของผู้เรียน: ใช้ข้อมูลจริงเพื่อการปรับปรุงที่มีประสิทธิผล
  • สนับสนุนความเป็นมืออาชีพ: ทำให้ครูบรรลุเกณฑ์ตามกรอบมาตรฐาน TH-PSF
  • สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต: ทั้งสำหรับผู้สอนและผู้เรียน

บทสรุป

ภายใต้กรอบ TH-PSF การวิจัยในชั้นเรียนถือเป็นวิถีทางสำคัญที่ทำให้ครูเข้าใจผู้เรียนลึกซึ้งขึ้น ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์เป็นฐานในการตัดสินใจเชิงวิชาชีพ และพัฒนาการสอนให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน อันนำไปสู่การยกระดับประสบการณ์เรียนรู้และศักยภาพของผู้เรียนอย่างแท้จริง

เอกสารอ้างอิง

  • ประกาศคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา เรื่อง แนวทางการพัฒนาคุณภาพอาจารย์เพื่อส่งเสริมการบรรลุผลลัพธ์การเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิ ระดับอุดมศึกษา พ.ศ. 2566
  • วิจารณ์ พานิช. (2562). วิจัยชั้นเรียนเปลี่ยนครู. มูลนิธิสยามกัมมาจล.
  • Gibbs, G. (1988). Learning by Doing: A Guide to Teaching and Learning Methods. Oxford Polytechnic.
  • Brookfield, S. D. (2017). Becoming a Critically Reflective Teacher (2nd ed.). Jossey-Bass.

 


   
อ้างอิง
แบ่งปัน:
1,497,100 views since 16 August 2018