เครื่องเร่งอนุภาค (accelerator) เป็นเครื่องมือที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เร่งอนุภาคได้แก่ อิเล็กตรอน โปรตอนและไอออนต่าง ๆ  ให้มีความเร็วสูงๆ    ถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมต้อง
มีการเร่งอนุภาคด้วยล่ะ   ถ้าคิดแบบง่าย ๆ  ก็คงคล้ายกับการที่เราอยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ในห่อของขวัญ เราต้องเปิดห่อนั้นออกก่อนจึงจะเห็นของข้างใน   ทำนองเดียวกันนักวิทยาศาสตร์อยากรู้ว่าจะมีอะไร
อยู่ในอนุภาคอิเล็กตรอน โปรตอนและไอออนต่าง ๆ บ้าง พวกเขาจึงต้องพยายามทำให้อนุภาคเหล่า
นั้นแตก เพื่อที่จะดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน ซึ่งคงไม่ใช่เอามือแกะออกเหมือนกับการแกะห่อของขวัญแน่     แต่ต้องใช้เครื่องเร่งอนุภาค      เพื่อเร่งอนุภาคบางอย่างให้มีความเร็วสูง  ๆ    ซึ่งจะทำให้มีพลังงานสูงด้วย โดยที่พลังงานของอนุภาคที่ถูกเร่งนั้นต้องมากจนกระทั่งสามารถฝ่าแรงยึดเหนี่ยวของอนุภาคที่ถูกชน จึงจะทำให้อนุภาคที่ถูกชนแตกออก   และเนื่องจากอนุภาคที่ถูกทำให้มีความเร็วสูงขึ้นนั้น   ขณะเดียว กันก็จะมีขนาดเล็กลง (ความยาวคลื่นสสารสั้นลง) ด้วย   ดังนั้นเมื่อเจอกับอนุภาคส่วนที่แตกออกมา และมีขนาดจิ๋วพอๆ กัน   จึงทำให้เราเก็บข้อมูลเกี่ยวกับอนุภาคส่วนที่แตกออกมานั้นได้ เหมือนกับที่ แสงช่วยให้เรามองเห็นได้ เฉพาะกับสิ่งของที่มีขนาดเท่ากับ หรือใหญ่กว่าความยาวคลื่นแสง เท่านั้น แต่จะใช้มองดูของที่มีขนาดเล็กกว่าความยาวคลื่นแสงไม่ได้ นั่นเอง (ความยาวคลื่นแสงเป็นตัวกำหนด ขนาดของสิ่งของที่คนเรามองเห็น) สมการเกี่ยวกับความยาวคลื่นสสารของ เดอ บรอยล์  ดังนี้ คือ

                                     λ = h/p
          λ      คือความยาวคลื่นสสารของเดอ บรอยล์ 
                    h    คือค่าคงที่ของพลังค์
                    p   คือโมเมนตัม(คือมวล(m)คูณความเร็ว(v))

                       สมการนี้บอกเราว่า  สำหรับอนุภาคที่วิ่งเร็วมาก ๆ (v มาก) จะมีโมเมนตัมมาก ( p มาก ) เป็นผลให้มีความยาวคลื่นสสารสั้นลง 

                          อะไรจะเกิดขึ้นถ้าเพิ่มโมเมนตัม

 

                   โมเมนตัม (p) เป็นผลคูณของมวล (m)และความเร็วของอนุภาค (v) เขียนเป็นสมการได้คือ   p = mv   มีหน่วยตามระบบ SI เป็น kg.m/s  สำหรับอนุภาคที่มีความเร็วไม่มากนักมักใช้หน่วย eV/c แต่สำหรับอนุภาคที่มีความเร็วใกล้ความเร็วแสงใช้หน่วย eV  โดยที่ eV คือหน่วย อิเล็กตรอนโวลต์ หมายถึง พลังงาน
ซึ่งเท่ากับพลังงานที่อิเล็กตรอนได้รับเมื่อเคลื่อนที่ผ่านความต่างศักย์ 1 โวลต์ และ c คือ ความเร็วแสง
จากภาพระดับพลังงานต่างๆ  มีค่าดังนี้

             1 MeV = 106 eV   (อ่านว่า เมกะอิเล็กตรอนโวลต์)
            1 GeV = 109 eV   (อ่านว่า จิกะอิเล็กตรอนโวลต์)
            1 TeV = 1012 eV  (อ่านว่า  เทระอิเล็กตรอนโวลต์)

จากภาพด้านบนถ้าเราเพิ่มโมเมนตัมให้สูงขึ้น จะพบว่าความยาวคลื่นสสารจะลดลง และเป็นผลให้เรา
ค้นพบอนุภาคขนาดเล็กลงด้วย
                      สำหรับแนวคิดเกี่ยวกับเครื่องเร่งอนุภาคเริ่มขึ้นตั้งแต่ในปี ค.ศ. 1911 โดย เออร์เนสต์
รัทเทอร์ฟอร์ด
( Ernest Rutherford)   และคณะจากห้องปฏิบัติการวิจัยคาเว็นดิช (Cavendish )
มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์(Cambridge )    จากการทดลองเรื่องการกระเจิงของอนุภาคแอลฟาเมื่อพุ่ง
ชนนิวเคลียสของทอง อนุภาคแอลฟาที่ใช้ยิงมาจากการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสีซึ่งมีแรงไม่มาก
พอที่จะฝ่าแรงคูลอมบ์เข้าไปถึงนิวเคลียสของทองได้  จึงจำเป็นต้องสร้างเครื่องมือบางอย่างมาช่วย
เร่งอนุภาคให้มีพลังงานสูงมากพอที่จะทะลวงเข้าไปในใจกลางของทองให้ได้