เดโมเครตุส (370-400 ก่อนคริสต์ศักราช)

ลิวซิปปุส (440   ปี   ก่อนคริสต์ศักราช)

            แนวคิดเกี่ยวกับหน่วยย่อยที่สุดของสสารมีมานานกว่า 2500 ปี โดยนักปราชญ์ ชาวกรีกชื่อ
ลิวซิปปุส (Leucippus )   และศิษย์ของเขาเดโมเครตุส( Democritus ) ทั้งสองคนมีความสนใจใน เรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสสารต่าง ๆ บนโลก พวกเขา ได้เสนอ " ทฤษฎีอะตอม" โดย กล่าวว่า  สสารประกอบไปด้วยหน่วยเล็กที่สุดที่ ไม่สามารถแบ่งแยกได้อีกเรียกว่า     "อะตอม"
( atom)
ซึ่งมีรากคำเป็นภาษากรีกมี ความหมายว่า ไม่สามารถตัดหรือแบ่งได้( uncuttable)  ต่อมา ต่อมาอาริสโตเติล (Aristotle: 384-322 ปีก่อนคริสต์ศักราช ) ได้อ้างว่าแนวคิดของลิวซิปปุสและ
เดโมเครตุสเป็นแนวคิดที่เข้าใจยาก  เขาจึงได้เสนอทฤษฎีใหม่เรียกว่า  " ทฤษฎีสสาร"  ที่เชื่อว่า
ธาตุมูลฐานมีอยู่ 4 อย่าง คือ ดิน น้ำ ลม และไฟ แนวคิดนี้เป็นที่ยอมรับกันมากในสมัยนั้น  และสืบ ต่อกัน เรื่อยมา ทั้งนี้เพราะมันเป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นได้

จอห์น ดอลตัน (ค.ศ.1766-1844)

แบบจำลองโครงสร้างอะตอมของดอลตัน

               จนกระทั่งเมื่อวิทยาศาสตร์มีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น ในตอนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 นักเคมี ชาวอังกฤษชื่อ จอห์น ดอลตัน ( John Dalton )ได้นำเอาทฤษฎีอะตอมมาพิจารณาใหม่โดยอาศัย ความรู้ทางเคมีที่พัฒนามากขึ้น  แล้วเสนอเพิ่มว่า  อะตอมมีโครงสร้างเป็นทรงกลมตัน จากทฤษฎี อะตอมของ ดอลตัน ทำให้หลายคนเชื่อว่า  สสารมีอะตอมเป็นองค์ประกอบอยู่จริง แต่ก็ยังไม่แน่ ใจว่าโครงสร้างอะตอมจะเป็นไปตามที่ ดอลตัน เสนอไว้หรือไม่  ดังนั้นจึงได้พยายาม ศึกษาต่อไป เรื่อยๆ เพื่อหาแบบจำลองโครงสร้างอะตอมที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด