|
นาโนเทคโนโลยี หน่วยที่ 6: นาโนเทคโนโลยียุคอนาคต(1) |
|
|
|
|
ดังที่ทราบกันแล้วว่านาโนเทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องเหลวไหลที่ไม่สามารถที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งยังเป็นเทคโนโลยีที่ได้เกิดขึ้นแล้วและมีการนำมาประยุกต์ใช้งานด้านต่างๆ แล้วอีกด้วย แล้วก็ยังมีการพัฒนารูปแบบหรือวิธีการทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นแล้วรูปแบบของนาโนเทคโนโลยีที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเป็นสิ่งที่ยากจะทำนายได้ เนื่องจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีนั้น อาจกล่าวได้ว่ามีลักษณะการพัฒนาคล้ายวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย คือเมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว ก็จะมีการปรับเปลี่ยนให้แตกต่างออกไปตามแต่ละช่วงเวลา จากนั้นก็จะแข่งขันกันขยายเผ่าพันธุ์ออกไป ลักษณะของเทคโนโลยีที่ขาดความสามารถในการแข่งขันก็จะค่อยๆ ลดจำนวนลงไป จนในที่สุดจะเหลือแต่กลุ่มของเทคโนโลยีที่สามารถรอดพ้นจากการสูญพันธุ์ที่จะอยู่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงยากต่อการทำนายว่าทิศทางในอนาคตของนาโนเทคโนโลยีจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่จากความรู้ความเข้าใจที่มากขึ้นในวิถีทางของนาโนเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติอันน่ามหัศจรรย์นั้น มีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตเราอาจจะยึดแนวทางของนาโนเทคโนโลยีที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ เป็นตัวนำทางเพื่อนำไปสู่นาโนเทคโนโลยีฝีมือมนุษย์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในอนาคตก็เป็นได้ |
|
แต่บางครั้งเราก็อาจจะทำนายหรือคาดการณ์อนาคตของนาโนเทคโนโลยีอย่างง่ายๆ ได้ เช่น ในอนคตคอมพิวเตอร์ที่เราใช้อาจจะสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้นและประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น วัสดุต่างๆ ที่นำมาใช้ประโยชน์อาจจะมีความแข็งแรง ทนทาน ยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อลักษณะการใช้งาน การรักษาโรคร้ายต่างๆ จะมีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากยิ่งขึ้น เป็นต้น ซึ่งนาโนเทคโนโลยีสามารถที่จะก่อให้เกิดความเป็นไปได้ต่างๆ ที่ในปัจจุบันนี้ยังไม่สามารถที่จะทำได้อีกมากมายหลากหลายด้านก็เป็นได้ |
|
|
|
|
|
|
เมื่อกล่าวถึงนาโนเทคโนโลยีแล้ว บ่อยครั้งที่คนโดยทั่วไปก็จะนึกถึงหรือจินตนาการเกี่ยวกับเรื่องราวของความเหนือธรรมชาติ หรือเป็นเรื่องราวเสมือนกับความฝันในสิ่งที่มนุษย์อยากจะให้มีเพื่อประโยชน์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น การสร้างหุ่นยนต์ขนาดเล็กจิ๋ว (หากเป็นในปัจจุบันอาจจะเรียกได้ว่าเป็นหุ่นยนต์นาโน) เพื่อที่จะใช้หุ่นยนต์เล็กจิ๋วนี้ให้เข้าไปทำงานอยู่ภายในร่างกายของเรา เช่น อยู่ในเส้นเลือดหรือกระแสเลือดภายในร่างกาย เพื่อให้หุ่นยนต์ทำหน้าที่ในการรักษา ต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ซ่อมแซมเม็ดเลือดหรืออวัยวะภายในที่บกพร่อง หรือให้ทำการขจัดสิ่งแปลกปลอมทุกชนิดที่ขัดขวางการทำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย เป็นต้น (ซึ่งในอดีตก็เคยมีการนำนวนิยายวิทยาศาสตร์ ที่เป็นเรื่องราวในลักษณะของการจินตนาการเช่นนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ภาพยนตร์เรื่อง The fantastic voyage ซึ่งเป็นเรื่องราวที่มีการย่อขนาดของนักวิทยาศาสตร์ ทหาร แพทย์ และหุ่นยนต์พาหนะคล้ายเรือดำน้ำจิ๋วที่มีภารกิจกู้ชีวิตภายในร่างกายของผู้ป่วย) |
|
|
|
หุ่นยนต์นาโนที่ทำหน้าที่ซ่อมแซมความบกพร่องของเซลล์เม็ดเลือดแดง |
|
|
|
|
แนวคิดเกี่ยวกับหุ่นยนต์นาโนนั้น หุ่นยนต์นาโนเป็นหุ่นยนต์เชิงกลหรือเป็นเสมือนจักรกลที่มีขนาดอยู่ในระดับนาโนเมตร ประกอบขึ้นมาจากกลุ่มอะตอมจำนวนน้อยๆ เป็นส่วนประกอบต่างๆ โดยต้องอาศัยคุณสมบัติในการเป็นผู้ประกอบตัวเองได้ (self-assembler) ก็คือสามารถที่จะจัดเรียงกลุ่มอะตอมหรือโมเลกุลได้อย่างถูกต้องแม่นยำและในตำแหน่งที่เหมาะสม เพื่อที่จะสร้างขึ้นเป็นโครงสร้างของตนเอง และต้องมีคุณสมบัติของการเป็นผู้ทำสำเนาตัวเองได้ (self-replicator) ก็คือสามารถที่จะดำเนินการสร้างตัวมันเองขึ้นมาใหม่ได้อีกหลายๆ ครั้ง เพื่อขยายเผ่าพันธุ์ของตัวเองได้ |
|
|
|
แต่ในแนวคิดนี้ก็เป็นข้อถกเถียงกันในหมู่นักวิทยาศาสตร์พอสมควร โดยมีทั้งกลุ่มที่เชื่อว่าการสร้างหุ่นยนต์นาโนนี้สามารถเป็นไปได้ และมีอีกกลุ่มที่ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ซึ่งกลุ่มที่ไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้นั้นให้เหตุผลว่าในการที่เราจะจัดการแยกอะตอม หรือจัดเรียงเพื่อรวมอะตอมเข้าด้วยกันนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาลในการจัดการ อีกทั้งการที่เราจะจัดการหยิบจับอะตอมแต่ละตัว เพื่อนำมาจัดเรียงและสร้างเป็นโครงสร้างหุ่นยนต์ตามที่เราต้องการได้นั้น จะต้องมีนิ้วหรือมีเครื่องมือที่จะนำมาใช้ประกอบที่มีขนาดเท่าๆกันกับอะตอมด้วย เพราะถ้ามีขนาดใหญ่กว่าก็จะทำได้ลำบากหรืออาจจะทำไม่ได้เลย อีกประการหนึ่งแม้ว่าเราจะมีนิ้วระดับนาโนหรือเครื่องมือที่เล็กขนาดเท่ากับอะตอม ที่สามารถมาจับหรือหยิบอะตอมได้แล้วก็ตาม แต่ในการจัดเรียงอะตอมก็จะมีแรงดึงดูดจำนวนมหาศาลระหว่างอะตอมที่จะเป็นอุปสรรคอีกเช่นกัน |
|
แต่อีกกลุ่มหนึ่งก็ยังเชื่อว่าการสร้างหุ่นยนต์นาโนนี้สามารถเป็นจริงได้ในอีกไม่นาน โดยเมื่อไม่นานมานี้ก็ประสบความสำเร็จในการสร้างแขนกลขนาดจิ๋ว ระดับไมโครเมตรที่สามารถทำงานในการประกอบวัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างด้วยเทคโนโลยี ระบบเครื่องกลไฟฟ้าจุลภาค (MEMS) ซึ่งก็ใกล้ความเป็นจริงของการสร้างหุ่นยนต์นาโนเข้ามาอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งจะต้องย่อแขนกลจิ๋วนี้ให้เล็กลงไปกว่าเดิมอีกพันเท่าถึงจะจับอะตอมได้จริง และยิ่งในปัจจุบันก็มีเครื่องมือที่สามารถจะจัดเรียงอะตอมทีละตัวได้อย่างถูกต้องและแม่นยำได้แล้ว โดยการใช้เครื่องมือที่มีปลายแหลมเล็กระดับนาโนเมตร (หรือมีขนาดเล็กระดับอะตอม) ดังนั้นความเป็นไปที่มนุษย์จะหยิบจับอะตอมทีละตัวแล้วนำมาจัดวางเรียงตัวทีละอะตอมนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้อยู่แล้ว อีกทั้งหากพิจารณาถึงสิ่งที่มีลักษณะเหมือนหุ่นยนต์นาโนที่มีอยู่แล้วในธรรมชาติ ก็ยิ่งจะเห็นได้ว่าโอกาสของความเป็นไปได้ในการสร้างหุ่นยนต์นาโนก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย |
|
ตัวอย่างเช่น โปรตีน ซึ่งเป็นเสมือนหุ่นยนต์นาโนของธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง โดยที่โปรตีนมีคุณสมบัติในการที่จะสามารถประกอบตัวเองได้ จากผลการวิจัยที่นักวิทยาศาสตร์เคยทำโดยการทดลองแยกไรโบโซมออกเป็นโมเลกุลย่อยๆ พบว่าไรโบโซมประกอบไปด้วยโปรตีนหน่วยย่อยเกือบ 50 หน่วยย่อย หลังจากนั้นลองนำเอาโปรตีนที่แยกได้ผสมรวมกันใหม่ในหลอดทดลอง ผลที่ได้พบว่า โมเลกุลโปรตีนเหล่านั้นสามารถรวมตัวกันได้เองจนกลับมาเป็นไรโบโซมได้เหมือนเดิมอีกครั้ง และอีกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดผลเช่นเดียวกัน โดยการทดลองแยกไวรัส T4 ซึ่งเป็นไวรัสที่เกาะกินแบคทีเรีย ออกเป็นโมเลกุลโปรตีนชนิดต่างๆ จากนั้นนำกลับมารวมกันใหม่ในหลอดทดลอง ผลที่ได้พบว่าโมเลกุลโปรตีนเหล่านั้นสามารถที่จะกลับมารวมตัวกันเกิดเป็นไวรัส T4 ได้อีกครั้งเช่นเดียวกัน |
|
|
ไวรัส T4 เปรียบได้กับเป็นหุ่นยนต์นาโนในธรรมชาติที่ อาจจะเข้าไปทำงานภายในร่างกายของสิ่งมีชีวิตได้ โดยที่มีความสามารถทั้งในการประกอบตัวเองได้ และสามารถที่จะทำสำเนาตัวเองได้ด้วย |
|
|
นอกจากความสามารถในการประกอบตัวเองได้แล้ว โปรตีนยังเป็นเสมือนหุ่นยนต์นาโนที่มีความมหัศจรรย์ โดยสามารถที่จะช่วยเหลือในการทำสำเนาตัวเองได้ของอาร์เอ็นเออีกด้วย จากผลการทดลองที่มีผู้แยกเอาโมเลกุลของอาร์เอ็นเอออกจากเซลล์มาใส่ในหลอดทดลอง แล้วใส่หน่วยย่อยของอาร์เอ็นเอและอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างอาร์เอ็นเอลงไป จากนั้นนำเอาเอนไซม์ที่ช่วยในการสร้างอาร์เอ็นเอใส่ลงไปด้วย ผลที่ได้พบว่าอาร์เอ็นเอที่จับคู่กันอยู่เริ่มแยกออกจากกัน และเอนไซม์ที่ใส่ลงไปจะค่อยๆ นำเอาสารที่ใส่ลงไปมาสร้างเป็นคู่ให้กับอาร์เอ็นเอที่อยู่เดี่ยวๆ ขึ้นมาใหม่ เมื่อได้อาร์เอ็นเอที่เป็นคู่กันแล้วก็จะสามารถแยกตัวออกจากกันอีก แล้วเอนไซม์ก็จะนำเอาสารที่ใส่ลงไปมาสร้างคู่ของอาร์เอ็นเอได้อีก โดยเกิดเป็นวงจรเช่นนี้จนกระทั่งไม่มีสารที่จำเป็นเหลืออยู่ภายในหลอดทดลอง ดังนั้นแล้วจะเห็นว่าโปรตีนมีทั้งความสามารถในการประกอบตนเองและการทำสำเนาตนเองได้ ซึ่งอาจจะนำมาสู่การสร้างเป็นกลไกที่มนุษย์สามารถออกแบบให้เกิดขึ้นกับนาโนเทคโนโลยีของมนุษย์ได้ |
|
|
|
|
ความคาดหวังหรือจินตนาการเกี่ยวกับจักรกลนาโนที่สามารถดำเนินการหรือจัดการสิ่งต่างๆ ในระดับอะตอมได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ ซึ่งเป็นเป้าหมายรากฐานของนาโนเทคโนโลยีนั้น วิถีทางหนึ่งที่คาดการว่าน่าจะเป็นไปได้ คือการสร้างจักรกลนาโนที่เป็นดังผู้ประกอบระดับนาโนที่เป็นโมเลกุล ที่สามารถประกอบโครงสร้างที่ซับซ้อนในระดับนาโนเมตรได้ โดยการจัดเรียงและเคลื่อนย้ายส่วนประกอบหรือชิ้นส่วนต่างๆ ที่จะประกอบเป็นโครงสร้างนาโนเข้าสู่ตำแหน่งที่ถูกต้องเหมาะสมได้ โดยอาศัยการทำงานเชิงกลของส่วนประกอบส่วนต่างๆ ที่มีขนาดในระดับนาโนเมตรร่วมกัน เช่น ฟันเฟือง เพลา และลูกปืนลดแรงเสียดทานในระดับนาโนเมตร เป็นต้น |
|
|
|
แนวคิดของจักรกลโมเลกุลที่เกิดจากการสังเคราะห์โดยจัดเรียงกลุ่มอะตอมจำนวนหนึ่งเข้าด้วยกัน |
|
|
ศาสตราจารย์อีริค เดร็กซเลอร์ (Eric Drexler) เป็นบุคคลแรกที่นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับการสร้างจักรกลโมเลกุลนี้ แต่ก็เป็นแนวคิดที่มีการถกเถียงกันมากพอสมควรในแนวทางของความเป็นไปได้ และก็ดูเหมือนว่าศาสตราจารย์เดร็กซเลอร์อาจจะไม่ต้องรอนานมากนักในการพิสูจน์แนวคิดนี้ เพราะเมื่อไม่นานมานี้ได้มีผู้สาธิตการสังเคราะห์โมเลกุลง่ายๆ โดยใช้แขนปลายแหลมของ เครื่อง AFM (atomic force microscope) ควบคุมการสังเคราะห์โมเลกุลทีละอะตอมได้สำเร็จแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญของความเป็นไปได้ในการสร้างผู้ประกอบระดับนาโน แม้จะมีนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากที่ยังลังเล และไม่แน่ใจกับความเป็นไปได้ของจักรกลโมเลกุลก็ตาม แต่ธรรมชาติกลับเป็นคำตอบที่ให้ความมั่นใจได้ว่า จักรกลโมเลกุลนั้นไม่ใช่สิ่งเพ้อฝัน ธรรมชาตินั้นใช้จักรกลโมเลกุลเพื่อสร้างสิ่งมีชีวิตต่างๆขึ้นมาทั้งสิ้น เริ่มจากโมเลกุลดีเอ็นเอ อันเปรียบเสมือนเป็นหน่วยความจำที่เก็บรหัสข้อมูลของเซลล์ สามารถดำเนินการส่งผ่านข้อมูลไปยังอาร์เอ็นเอ เพื่อให้อาร์เอ็นเอนำคำสั่งเหล่านี้ไปดำเนินการร่วมกันกับไรโบโซม เพื่อทำการสังเคราะห์โปรตีนขึ้นมา ซึ่งไรโบโซมก็ทำหน้าที่เป็นเสมือนโรงงานในการผลิตระดับโมเลกุล โดยทำหน้าที่สร้างโปรตีนเพื่อส่งไปใช้ ทั้งภายในเซลล์และภายนอกเซลล์ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจักรกลโมเลกุลเหล่านี้เป็นไปได้อยู่แล้วในธรรมชาติ ด้วยเหตุน ี้อีกไม่นานเราอาจจะมีจักรกลโมเลกุลเหล่านี้ที่เกิดจากการสังเคราะห์โดยมนุษย์ตามวิถีทางของระบบธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ก็เป็นได้ |
|
|
|
|
จักรกลโมเลกุลตามแนวคิดของศาสตราจารย์อีริค เดร็กเลอร์ |
|
|
นอกจากนั้นแล้วศาสตราจารย์เดร็กซเลอร์ได้เสนอทิศทางความเป็นไปได้ที่เกิดขึ้นจริงแล้ว เกี่ยวกับโครงสร้างระดับโมเลกุลในธรรมชาติและในเซลล์ที่ทำหน้าที่คล้ายคลึงกันกับอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีในปัจจุบัน ซึ่งเขาได้เปรียบเทียบไว้เพื่อจุดประกายนำไปสู่แนวทางของการออกแบบระบบการทำงานระดับนาโน (nanosystem) ในอนาคตไว้ดังนี้ |
|
|
|
|
เสาค้ำยัน (struts) , คานรอง(beams) , ตัวคลอบ(casings) |
ถ่ายแรง, ยึดอยู่ในตำแหน่ง |
ไมโครทิวบิล, เซลลูโลส, โครงสร้างรูปผลึก |
สายเคเบิล (cables) |
ถ่ายเทแรงตึง |
เอ็นระดับโมเลกุล เช่น คอลลาเจน |
เครื่องตรึง (fasteners) , กาว(glue) |
เชื่อมต่อชิ้นส่วนต่างๆ เข้าด้วยกัน |
แรงระหว่างโมเลกุล |
โซลินอยด์ (solenoids) , ตัวเริ่มกระทำ(actuators) |
เคลื่อนชิ้นส่วนต่างๆ |
โปรตีนที่ทำหน้าที่เปลี่ยนโครงรูปได้, แอคติน - ไมโอซิน |
มอเตอร์ (motors) |
ขับเคลื่อนเพลาต่าง |
มอเตอร์ที่ใช้ขับเคลื่อนแฟลเจลลัม |
เพลาขับเคลื่อน (drive shafts) |
ถ่ายเททอร์ก |
แฟลเจลลาของแบคทีเรีย |
ลูกปืนลดแรงเสียดทาน (bearings) |
ช่วยในการเคลื่อนไหวของชิ้นส่วนต่างๆ |
พันธะเดี่ยวแบบซิกมา (sigma bond) |
ตัวบรรจุ (containers) |
กักเก็บของเหลว |
อวัยวะย่อยที่บรรจุของเหลวในเซลล์ (vesicles) |
ท่อ (pipes) |
นำส่งของเหลว |
โครงสร้างที่มีลักษณะเป็นท่อทั้งหลาย |
เครื่องสูบฉีด (pumps) |
ถ่ายเทของเหลว |
แฟลเจลลา, โปรตีนที่อยู่ในเยื่อหุ้มต่างๆ |
สายพาน (conveyor belts) |
ขนส่งชิ้นส่วนต่างๆ |
อาร์เอ็นเอที่เคลื่อนบนตัวบนไรโบโซม |
คีมหนีบ / แหนบหนีบ(clamps) |
ยึดชิ้นงาน |
ตำแหน่งจับยึดของเอนไซม์ (enzymatic binding sites) |
เครื่องมือ (tools) |
ปรับแต่งชิ้นงาน |
หมู่ฟังก์ชันของสารเคมี, สารที่ประกอบด้วยโลหะกับสารเคมี( metallic complex ) |
สายการผลิต (production lines) |
ชิ้นส่วนในการสร้าง |
ระบบเอนไซม์ที่มีหลายตัวติดกัน, ไรโบโซม |
ระบบควบคุมงานโดยใช้ระดับดิจิตอล (numerical control systems) |
ชุดคำสั่งเกี่ยวกับการจัดเก็บและการอ่าน |
ระบบพันธุกรรม |
|