หากคุณเข้าสู่แวดวง Programming หรือ Software Development เชื่อว่าคุณคงรู้เกี่ยวกับ JavaScript อย่างแน่นอน แต่หากถามว่า คุณรู้จัก TypeScript หรือไม่ คงมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้จัก TypeScript วันนี้เรามาดูข้อแตกต่างระหว่าง TypeScript กับ JavaScript Programming กันว่ามีอะไรบ้าง
JavaScript คืออะไร
โดยพื้นฐานแล้ว JavaScript นั้นเป็นภาษา Script ที่ก่อนหน้านี้เป็น Client-Side Programming เท่านั้น แต่ตอนนี้ (หลังจากที่มี Node.js) มันสามารถใช้สำหรับ Server-Side Programming ได้ด้วย ทำงานได้ทั้งบน Web Browser และ Web Server ซึ่ง JavaScript จะช่วยให้ Code ของเราสามารถโต้ตอบ (Interact) กับ Browser และยังสามารถเปลี่ยนหรือ Update ทั้ง HTML และ CSS แม้ว่าคุณจะสามารถใช้ JavaScript กับ REST APIs, XML รวมทั้งอื่น ๆ แต่มันก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อพัฒนา Applications, Applets หรือระบบขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อน แต่ในปัจจุบันมันกำลังจะสามารถทำแบบนั้นได้
เมื่อ JavaScript เริ่มเติบโตมากขึ้น Code ของมันก็เริ่มหนักและซับซ้อนมากขึ้นจนไม่สามารถตอบสนองต่อ Requirement ของ Object-Oriented Programming ได้ มันจึงเป็นต้นเหตุที่ไป “จำกัด” การเติบโตของ JavaScript ซึ่งเป็นภาษา Server-Side และ Multitasking และด้วยเหตุนี้เอง TypeScript เกิดขึ้นเพื่อเอาชนะปัญหาดังกล่าว
TypeScript คืออะไร
Typescript ก็คือภาษา JavaScript ใน Version ที่ได้รับการ Upgrade นั่นเอง มันสามารถทำงานบน Node.js Environment หรือ Web Browser ต่าง ๆ ที่มีการรองรับ ECMAScript 3 ขึ้นไป TypeScript เป็น Statically Compiled Language ที่ได้จัดเตรียมทั้ง Static Typing, Classes และ Interface ไว้ให้แล้ว ช่วยให้คุณสามารถเขียน Code ของ JavaScript ที่เรียบง่ายและ Clean ได้อย่างสะดวกขึ้น ดังนั้น การใช้ TypeScript จะช่วยให้คุณสามารถสร้าง Software ที่ปรับใช้งานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อดีของ TypeScript
- TypeScript มี Feature ที่มีประโยชน์อย่าง Code Navigation, Bug Prevention และ Maintainability of Code ไว้ให้แล้ว
- มันรองรับ Static Type Annotation หรือ Static Typing
- นอกจากนี้ยังรองรับ Interfaces, Sub-Interfaces, Classes, Subclasses และ ECMAScript 6 หรือ ES6
- มันมาพร้อมกับความสามารถใน Object-Oriented Programming พร้อมทั้งการ Inheritance ของ Private Members และ Interfaces
- มี IDE ให้ใช้อยู่มากมาย
ข้อดีของ JavaScript
- JavaScript เป็น Open-Source จึงเป็นภาษาที่มีความยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย Microsoft และ Mozilla
- มันสามารถถูกใช้งานได้ทั้ง Client และ Server Side
- มันรองรับทั้ง Classes, Interfaces และ Modules
- มันถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ Scripts ขนาดเล็ก ๆ
- มันเป็นภาษา Cross-Platform
- มันมีในส่วนของการ Testing Workflow ที่แข็งแกร่ง และรองรับในเรื่องของ Dependencies อีกด้วย
ข้อแตกต่างระหว่าง JavaScript กับ TypeScript
- JavaScript เป็นภาษาที่สามารถเรียนรู้ได้ง่าย ในขณะที่ TypeScript ต้องอาศัยการเรียนรู้ที่มากกว่าและต้องมีความรู้เกี่ยวกับ Script ก่อน
- TypeScript รองรับ Static Typing ซึ่งทำใให้คุณสามารถตรวจสอบความถูกต้องของ Type ได้ในระหว่างที่ Compile แต่ในขณะที่ JavaScript กลับไม่รองรับสิ่งนี้
- Code ของ TypeScript จำเป็นต้องถูก Compile ก่อน แต่สำหรับ JavaScript ไม่ต้อง Compile ก่อน Run
- JavaScript มี Community ขนาดใหญ่สำหรับ Developer ซึ่ง TypeScript ยังไม่มี
- Airbnb, Codecademy และ Instagram เป็นบริษัทส่วนหนึ่งที่ใช้ JavaScript ในขณะที่ TypeScript ถูกใช้โดย Asana, Clever, Screen Award เป็นต้น
หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับคุณ แต่หากคุณเป็นมือใหม่หรือกำลังจะเริ่มศึกษาภาษาเหล่านี้ ขอแนะนำให้ศึกษา JavaScript ก่อนโดยเริ่มต้นเรียนรู้ที่พื้นฐานก่อน ฝึกฝนในเรื่องของ Code จนเมื่อคุณมั่นใจ แล้วจึงมาเริ่มศึกษา TypeScript ต่อ ประการสำคัญคือ การรู้ทั้ง 2 อย่างนี้มันจะช่วยให้ Resume ของคุณโดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่นที่มีแค่ทักษะ JavaScript เพียงอย่างเดียว
credit: Kanthima Muangsen
ที่มา: https://www.technotification.com/
วิธีการตั้งค่าโปรเจคให้สามารถรัน TypeScript ได้ พร้อมกับวิธีการนำไปใช้กับ Express
สิ่งที่ต้องมี
- Node.js version >= 12
- npm หรือ yarn
การตั้งค่าโปรเจคให้สามารถรัน TypeScript ได้
- เริ่มจากสร้างโปรเจคใหม่ และสร้างไฟล์ package.json
mkdir typescript-node
cd typescript-node
npm init -y
-
ติดตั้ง libraries ใน devDepencies
typescript
เป็นตัวหลักที่ช่วยแปลงจาก TypeScript ไปเป็น JavaScriptts-node
เป็นเหมือน dev server ค่อยช่วยแปลงโค้ดจาก TypeScript ไปเป็น JavaScript ในขั้นตอนพัฒนาnodemon
ตัวช่วยให้รันโค้ดใหม่อัตโนมัติ เมื่อมีการแก้ไขโค้ด ทำงานร่วมกับts-node
npm i -D typescript ts-node nodemon
- สร้างไฟล์ tsconfig.json โดยใช้คำสั่ง
ืnpx tsc --init
และแก้ไขค่าตามนี้
{
"compilerOptions": {
- "target": "es5"
+ "target": "es6" /* กำหนดว่าให้แปลงเป็น js version อะไร */,
"module": "commonjs" /* กำหนดว่าจะใช้ module แบบไหน */,
+ "moduleResolution": "node" /* บอกใช้กับ Node.js */,
"esModuleInterop": true /* อนุญาติให้ complie ES6 module เป็น commonjs*/,
"strict": true /* เปิดใช้ strict type-checking options*/,
+ "outDir": "./dist" /* ระบุโฟลเดอร์ output (JavaScript) */,
+ "rootDir": "./src" /* ระบุโฟลเดอร์ sourcecode (TypeScript) */
}
}
-
แก้ไข script ไฟล์ package.json
dev
สำหรับรันโค้ดในโหมดพัฒนา จะทำการ reload อัตโนมัติเมื่อแก้ไขโค้ดbuild
สำหรับแปลงไฟล์เป็น JavaScript สำหรับการนำไปใช้งานจริง
"scripts": {
"dev": "nodemon",
"build": "tsc --project ./"
},
- และสร้างไฟล์ nodemon.json
{
"watch": ["src"],
"ext": "ts",
"ignore": ["src/**/*.spec.ts"],
"exec": "ts-node ./src/index.ts"
}
ทดสอบโค้ด TypeScript
- สร้างไฟล์ src/index.ts
const geeting = (name: string) => {
console.log(`Hello ${name} from TypeScript.`);
};
geeting('Ball');
- รัน
npm run dev
> typescript-node@1.0.0 dev D:\workspaces\playgounds\typescript-node
> nodemon
[nodemon] 2.0.7
[nodemon] to restart at any time, enter `rs`
[nodemon] watching path(s): src\**\*
[nodemon] watching extensions: ts
[nodemon] starting `ts-node ./src/index.ts`
Hello Ball from TypeScript.
[nodemon] clean exit - waiting for changes before restart
- ทดลองแก้ไขชื่อ
nodemon
ก็จะ restart ให้อัตโนมัติ
[nodemon] restarting due to changes...
[nodemon] starting `ts-node ./src/index.ts`
Hello Stamp from TypeScript.
[nodemon] clean exit - waiting for changes before restart
- ทดสอบ build โดยรันคำสั่ง
npm run build
ก็ได้จะได้โฟลเดอร์dist
ออกมา และมีไฟล์ index.js อยู่ข้างใน
// dist/index.js
'use strict';
const geeting = (name) => {
console.log(`Hello ${name} from TypeScript.`);
};
geeting('Stamp');
วิธีตั้งค่า TypeScript กับ Express
-
ติดตั้ง Express รัน
npm i express
-
สร้าง Express Server ง่ายๆ ที่ไฟล์ src/index.ts
import express from 'express';
const app = express();
const PORT = 8000;
app.get('/', (req, res) => res.send('Express + TypeScript Server'));
app.listen(PORT, () => {
console.log(`Server is running at http://localhost: ${PORT}`);
});
-
ทดสอบรัน npm run dev จะพบว่าไม่สามารถรันได้ เนื่องจาก มันไม่รู้จัก type นั่นเอง
-
แก้ไขโดยการติดตั้ง @types ที่ต้องการเพิ่มเข้าไป
npm i -D @types/node @types/express
ถ้าใช้ bodyParser ก็ต้องติดตั้ง @types/body-parser เพิ่มด้วย
- เมื่อรองรันใหม่อีกครั้งก็จะสามารถรันได้แล้ว
npm run dev
> typescript-node@1.0.0 dev D:\workspaces\playgounds\typescript-node
> nodemon
[nodemon] 2.0.7
[nodemon] to restart at any time, enter `rs`
[nodemon] watching path(s): src\**\*
[nodemon] watching extensions: ts
[nodemon] starting `ts-node ./src/index.ts`
Server is running at http://localhost:8000
ยังๆ... ไม่หมด
เนื่องจากเราเขียนแบบ TypeScript แต่โค้ดข้างต้นยังไม่ได้ถูกกำหนด type ให้ถูกต้องเลย ดังนั้นเรามากำหนด type ให้ถูกต้องการ ดังนี้
- app ต้องมี type เป็น Application
- req ต้องมี type เป็น Request
- res ต้องมี type เป็น Response
import express, { Application, Request, Response } from 'express';
const app: Application = express();
const PORT: number = 8000;
app.get('/', (req: Request, res: Response) => {
res.send('Express + TypeScript Server');
});
app.listen(PORT, () => {
console.log(`Server is running at http://localhost: ${PORT}`);
});
เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว
credit: Somprasong Damyos