ก่อนที่เราจะไปทำความเข้าใจกับหัวข้อ เขียนบทความอย่างไรให้ถูกใจ Google เราต้องรู้จักกับคำว่า SEO เสียก่อน SEO ย่อมากจาก Search Engine Optimization. เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาในตำแหน่งที่ดีที่สุด หรือ ติดหน้าแรกของ Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Yahoo เป็นต้น ซึ่งการที่เว็บไซต์เราจะติดอันดับต้นๆ ของ Search Engine นั้นก็มีอยู่ด้วยกันหลายปัจจัย ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงหลักการการเขียนบทความอย่างไรให้ถูกใจ Google กัน เนื่องจาก Google เป็น Search Engine ที่นิยมใช้งานมากที่สุดในปัจจุบัน โดยการ
ผู้เขียนได้สรุปเทคนิคขั้นตอนการเขียนบทความอย่างไรให้ถูกใจ Google มาไว้ให้แล้วไปดูกันเลยครับ
- การตั้งชื่อบทความ
ให้เราทำการตั้งชื่อบทความ โดยให้ส่วนหน้าของชื่อเรื่องนั้น เป็น Keyword ที่เราต้องการให้ติดอันดับก่อน ตัวอย่างเช่นหากเรากำลังเขียนบทความ โดยใช้ Keyword คำว่า “นวัตกรรมการเรียนรู้” เวลานำมาตั้งเป็นชื่อของบทความ จะได้ดังนี้คือ
- นวัตกรรมการเรียนรู้ คืออะไร
- การพัฒนา นวัตกรรมการเรียนรู้
- การนำ นวัตกรรมการเรียนรู้ ไปใช้ประโยชน์
- ความยาวของชื่อบทความ
ชื่อบทความที่มีผลต่อSEO ดีที่สุดนั้นต้องมีความยาวไม่เกิน 62 ตัวอักษรนะครับ เพราะความยาวของตัวอักษรนี้ จะไปปรากฎในหน้า SERPs ของ google ซึ่งหากเราตั้งชื่อที่ยาวมากกว่านี้ จะส่งผลให้เกิดการตัดคำที่หน้าแรกของ Google และนั่นทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจว่า ลิ้งค์ที่อ่านนั้นต้องการสื่อความหมายอะไรกันแน่
- แบ่งเว้นวรรคตรง Keyword เสมอสำหรับชื่อเรื่อง
เทคนิคพิเศษ ในการทำให้บทความSEO นั้นสามารถติดหน้าแรกได้อย่างรวดเร็วคือ การใช้เทคนิคแบ่งคำ Keyword โดยการเว้นวรรคหนึ่งครั้ง ตัวอย่างเช่น
แบบที่ 1 “นวัตกรรมการเรียนรู้_คืออะไร”
แบบที่ 2 “การพัฒนา_นวัตกรรมการเรียนรู้”
แบบที่ 3 “การนำ_นวัตกรรมการเรียนรู้_ไปใช้ประโยชน์”
ตรงที่ เขียน _ นั่นคือส่วนในการเว้นวรรค หากทำแบบนี้จะส่งผลให้การอ่านของ Bot นั้นทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากๆ
- ใส่ Keyword ไม่เกิน 1-2 คำในชื่อเรื่องเท่านั้น
จำนวน keyword ที่นำมาใช้ในการใส่เข้าไปที่ชื่อเรื่องนั้น ไม่ควรเกินกว่า 1-2 คำเท่านั้น เพราะหากมีความยาวที่มากเกินกว่านี้แล้ว สุดท้ายจะส่งผลให้เกิดการ spam keyword ส่งผลให้คุณนั้นไม่สามารถทำอันดับได้ครับ ดังนั้นควรใส่เพียงแค่ 1-2 คำเท่านั้น
- แบ่งหน้ากระดาษออกเป็นสามส่วนเสมอ
การแบ่งหน้าของบทความSEO ออกเป็นสามส่วนเสมอ ได้แก่ส่วนของการเกริ่นนำ ส่วนเนื้อเรื่อง และส่วนของการสรุป โดยมีการแบ่งสัดส่วนของการเขียนออกเป็นดังต่อไปนี้คือ
- ส่วนเกริ่นนำ ประมาณ 30% ของเนื้อหาบทความ
- ส่วนเนื้อหาย่อย ประมาณ 60% ของเนื้อหาบทความ
- ส่วนสรุป ประมาณ 10% ของเนื้อหาบทความ
และในทุกๆพารากราฟนั้น ต้องมีการเว้นวรรค 1 บรรทัดเสมอๆนะครับ เพื่อให้ผู้อ่านนั้นสามารถอ่านบทความได้อย่างง่ายดาย และรู้ประเด็นของเนื้อหาในแต่ละช่วงว่าเป็นอย่างไร และมีใจความสำคัญของในแต่ละส่วนอย่างไรด้วย
- เทคนิคการเขียนบทความส่วนเกริ่นนำ
สำหรับเทคนิคการเขียนบทความ ในส่วนของการเกริ่นนำนั้น ให้เน้นไปที่การกล่าวถึงภาพรวมของเนื้อหาที่เราจะเขียนออกไป หรืออาจเป็นเรื่องของการเร้าอารมณ์ให้ผู้อ่านอยากอ่านเนื้อหาในส่วนของเนื้อหาย่อยก็ได้ แต่หัวใจสำหรับการเขียนตรงประเด็น เกริ่นนำนี้คือ
- ใส่ Keyword เข้าไปอย่างน้อย 2-3 คำ
- ทำตัวหนา ในส่วนของKeyword ไม่เกิน 3 คำ
- กระจ่ายKeyword ให้อยู่ในส่วนของเนื้อหาเกริ่นนำอย่างสมดุล
- ไม่ต้องทำการเคาะย่อหน้า
- การเขียนเนื้อหาในส่วนของเนื้อหาย่อย
ในส่วนของการเขียนเนื้อหาย่อยนั้น ให้เราทำการแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อย ซึ่งจะช่วยให้เรานั้นสามารถสร้างเนื้อหาที่ดีและเป็นประโยชน์ต่องานเขียนบทความSEO ได้อย่างไม่ยากนักเทคนิคการเขียนจะเป็นดังนี้
- เว้นวรรคทุกบรรทัดหัวข้อย่อย
- อย่าพยายามใส่เลขนำหน้าหัวข้อย่อย
- รักษาความสวยงาม และความสมดุลของบรรทัดไว้
- ใส่ตัวหนาได้ไม่เกิน 1 ที่สำหรับ Keyword
- พยายามให้มี Keyword กระจายไปให้ทั่วทั้งบทความ
- หัวข้อย่อยแต่ละตัวให้ตั้งเป็นตัวหนา (bold) และมีขนาดที่ H2 เสมอ
- การเขียนบทความSEOในส่วนของการสรุป
ส่วนสุดท้ายของการเขียนบทความ คือการเขียนเนื้อหาในส่วนของการสรุป ซึ่งแน่นอนว่าส่วนนี้นั้น เป็นส่วนที่อธิบายถึง บทสรุปของการทำหรือปฏิบัติตามแนวของบทความ ซึ่งเป็นเสมือนจุดสุดท้ายที่ให้ผู้อ่านนั้นได้ระลึก หรือว่าได้เห็นความสำคัญของบทความนี้มากยิ่งขึ้น โดยหลักคือเขียนเพียง 10% ของจำนวนบทความทั้งหมดเท่านั้น
- แทรกรูปภาพเข้าไปด้วยเสมอ
ทุกครั้งที่เราเขียนบทความลงไปในเว็บไซต์ ให้เรานั้นทำการแทรกรูปภาพ ที่มีการตั้งชื่อไฟล์ภาพ เป็นชื่อ Keyword และตั้งชื่อ Keyword ลงไปอีกครั้งในช่องค่า Alt การทำแบบนี้จะช่วยดันอันดับบทความของเรา ให้ขึ้นหน้าแรกโดยใช้เวลาเพียงไม่นานเลยครับ
สรุปแล้ว ด้วยหลักการ 9 ข้อที่ได้กล่าวไปข้างต้น จะช่วยให้การออกแบบการเขียนบทความ ถูกต้องตรงตามความต้องการของ Google มากที่สุด และมีส่วนสำคัญในการดันอันดับเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้นด้วยครับ
อ้างอิง
เรื่องโดย นำโชค ขุนหมื่นวงค์ สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ ม.มหิดล