ขนาด Sample size จำนวนผู้เข้าร่วมงานวิจัยในงานวิจัยเชิงคุณภาพ เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม
(Determining an Appropriate Sample Size for Your Qualitative Study)
การกำหนดขนาดตัวอย่าง (Sample size) ของงานวิจัย ขนาดของกลุ่มตัวอย่างจะถูกดึงมาจากประชากรที่เป็นแหล่งข้อมูลของงานวิจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำงานวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ขนาดตัวอย่างจะค่อนข้างเล็กกว่าเมื่อเทียบกับการวิจัยเชิงปริมาณ (Crouch & McKenzie, 2006) เพราะว่าเป้าหมายของการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพและสมมติฐาน (Philosophical assumptions) ของการวิจัยเชิงคุณภาพนั้นจะแตกต่างจากการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ จุดเน้นของนักวิจัยเชิงคุณภาพ คือ การบรรยาย สำรวจ หรืออธิบายปรากฏการณ์ที่น่าสนใจโดยใช้ข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลข (non-numeric data) เช่น วิดีโอ เสียง ข้อความ และ artefacts ต่าง ๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำความเข้าใจในเชิงคุณภาพ นักวิจัยเชิงคุณภาพจึงไม่สนใจนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้าเพื่อวางนัยทั่วไป (Generalization หลักการที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์) ดังนั้น บทบาทนักวิจัยเชิงคุณภาพคือต้องรวบรวมข้อมูลเชิงคุณภาพที่มีคุณภาพ เพื่อนำมาวิเคราะห์และสร้างธีมที่จะตอบคำถามการวิจัยได้ ข้อมูลที่เก็บรวบรวมมาต้องสะท้อนถึงสิ่งทันักวิจัยกำลังศึกษาอยู่ ตัวอย่างเช่น ต้องการศึกษาเรื่องภาวะหมดไฟ (Burnout) ของผู้บริหารองค์กร เมื่อคัดเลือกผู้เข้าร่วม ต้องวิจัยต้องมุ่งเน้นในการคัดเลือกผู้บริหารองค์กรที่เคยประสบภาวะหมดไฟ (ไม่ใช่คัดมาเฉพาะแค่ผู้ที่จัดการกับภาวะนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ) นอกจากนี้ เพื่อให้ผู้วิจัยสามารถแยกความแปรผันของประสบการณ์ภาวะหมดไฟ (variations of burnout experience) ผู้วิจัยต้องเลือกตัวอย่างที่สะท้อนถึงความแตกต่างทางประชากรศาสตร์ (demographic variation) โดยอาศัยหลักเกณฑ์ด้านอายุ ประสบการณ์การทำงาน และ/หรือระดับการศึกษาสูงสุด ซึ่งเทคนิคนี้ใช้แนวคิดที่เรียกว่า ความแปรปรวนเชิงจินตนาการ (imaginative variation) (Larsen & Adu, 2021)
เมื่อเราทราบแล้วว่า ขนาดตัวอย่างของงานวิจัยเชิงคุณภาพมีขนาดเล็ก แต่ทว่าขนาดตัวอย่างขนาดเล็ก คือต้องมีผู้เข้าร่วมจำนวนเท่าไหร่? คำตอบคือ “ขึ้นอยู่กับการวิจัยของคุณ” หลักการเฉพาะเจาะจงในการกำหนดจำนวนผู้เข้าร่วมที่เหมาะสมนั้นไม่มี เพราะงานวิจัยเชิงคุณภาพแต่ละงานมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน แต่ปัจจัยต่อไปนี้อาจนำมาพิจารณาเพื่อช่วยผุ้วิจัยในการตัดสินใจเลือกขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพของคุณได้โดยอาศัยหลักเกณฑ์ ดังนี้
1. การถึงจุดอิ่มตัว (Attainment of saturation)
เมื่อผู้วิจัยตัดสินใจเลือกจำนวนผู้เข้าร่วมสำหรับการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพเรียบร้อยแล้ว คำถามต่อมาที่คุณอาจเกิดข้อสงสัยและถามได้คือ "ฉันต้องมีผู้เข้าร่วมกี่คนจึงจะถึงระดับความอิ่มตัว" ความอิ่มตัวเกิดขึ้นเมื่อนักวิจัยไปถึงขั้นที่ไม่ได้รับข้อมูลใหม่จากผู้เข้าร่วมแล้ว (Adu, 2023) ในการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ ความอิ่มตัวอาจเกิดขึ้นได้ระหว่างผู้เข้าร่วมคนที่ 12 และ 15 ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระเบียบวิธีวิจัย ความหลากหลายของภูมิหลังของผู้เข้าร่วม (variation of participants' background) มุมมอง (perspectives) ประสบการณ์ (experiences) และความซับซ้อนของปรากฏการณ์ที่กำลังศึกษาวิจัย (complexity of the phenomenon being studied) จากการศึกษาของ Adu and Miles (2023) จึงให้ข้อเสนอไว้ว่าให้ผู้วิจัยทบทวนวรรณกรรม ลองดูการศึกษาครั้งก่อนๆ ที่ใช้แนวทางการวิจัยที่เหมือนกับที่ผู้วิจัยเลือก เพื่อให้ทราบขนาดตัวอย่างที่งานวิจัยก่อนหน้าใช้ และเป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้กับงานวิจัยของตนเองได้
2. การเข้าถึงผู้เข้าร่วม (Accessibility of participants)
ผู้วิจัยอาจมีไอเดียหรือจำนวนขนาดตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการศึกษาวิจัยของคุณ แต่ทว่าการเข้าถึงผู้เข้าร่วม (ที่มีศักยภาพ มีข้อมูลที่จำเป็นต่อการการวิจัย) อาจส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้เข้าร่วมที่ต้องการได้หากไม่สามารถเข้าถึง Participant เหล่านั้นได้ (Adu, 2023; Baker & Edwards, 2012) ตัวอย่างเช่น ผู้วิจัยอาจไม่สามารถได้ขนาดตัวอย่างหรือจำนวนผู้เข้าร่วมการวิจัยตามที่วางแผนไว้ได้ เนื่องจากมีปัญหาในการเข้าถึงผู้เข้าร่วม ซึ่งอาจส่งผลต่อจำนวนที่ผู้วิจัยต้องการเพื่อรวบรวมข้อมูลที่สำคัญได้อย่างเหมาะสมจากผู้เข้าร่วม ดังนั้น Larsen & Adu (2021) กล่าวว่า ผู้วิจัยต้องรับมือกับปัญหาความท้าทายนี้ได้โดยใช้เวลากับผู้เข้าร่วมแต่ละคนมากขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ตอบคำถามทั้งหมดของคุณแล้ว ดำเนินการตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ครบถ้วน และอาจมีการสัมภาษณ์เพื่อติดตามผลเมื่อมีความจำเป็น
3. ประเภทของการวิจัยที่เลือกใช้ (Type of research approach chosen)
ขนาดของกลุ่มตัวอย่างอาจแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับประเภทของการวิจัยที่เลือก เช่น ผู้วิจัยมีแนวโน้มที่จะเลือกผู้เข้าร่วมระหว่าง 5 ถึง 25 คน หรือ ระหว่าง 20 ถึง 30 คน หากผู้วิจัยวางแผนที่จะใช้การศึกษาเชิงปรากฏการณ์วิทยา (Phenomenology) หรือใช้การวิจัยทฤษฎีฐานราก (Grounded theory approach) (Creswell, 2013) ดังนั้น ก่อนที่คุณจะกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง Adu and Miles (2023) แนะนำว่าให้ผู้วิจัยศึกษาและทบทวนวรรณกรรมเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบ/ประเภทการวิจัยที่คุณเลือก รูปแบบการวิจัยที่คุณเลือกใช้นี้เคยถูกใช้ในการศึกษาวิจัยมาก่อนหรือไม่ หรือมีงานวิจัยที่คล้ายคลึงกับระเบียบวิธีวิจัยหรือสิ่งที่คุณกำลังจะศึกษาบ้างหรือไม่ ศึกษาดูว่างานวิจัยอื่น ๆ เขามีขนาดกลุ่มตัวอย่างเล็กหรือใหญ่ ใช้จำนวนผู้เข้าร่วมวิจัยกี่คน แล้วหาว่าหลักการหรือเหตุผลในการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างของงานวิจัยนั้นคืออะไร ข้อค้นพบและการอภิปรายผลการวิจัยเป็นเช่นไร และในตอนท้าย ผู้วิจัยนั้นมีข้อเสนอแนะ (Suggestions) เกี่ยวกับขนาดกลุ่มตัวอย่างไว้หรือไม่อย่างไร เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างและผู้เข้าร่วมวิจัยของเราเองได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น (Baker & Edwards, 2012)
แหล่งอ้างอิง
Adu, P. (2023, April 26). Writing the methodology chapter of your dissertation [Video]. YouTube.
www.youtube.com/watch?v=NFLzd267UOg
Adu, P., & Miles, D.A. (2023). Dissertation Research Methods: A Step-by-Step Guide to Writing Up Your Research in the Social Sciences
(1st ed.). Routledge. https://doi.org/10.4324/9781003268154
Baker, S. E., & Edwards, R. (2012). How many qualitative interviews is enough? National Center for Research Methods.
Creswell, J. W. (2013). Qualitative inquiry and research design: Choosing among five approaches (3rd ed.). Sage Publications.
Crouch, M., & McKenzie, H. (2006). The logic of small samples in interview- based qualitative research.
Social Science Information, 45(4), 483– 499. https://doi.org/10.1177/0539018406069584
Larsen, H. G., & Adu, P. (2021). The theoretical framework in phenomenological research:
Development and application. Routledge.