สินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset) คือทรัพย์สินที่มีอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้งข้อมูลดิจิทัลที่มีมูลค่า เช่น สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานผ่านระบบออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยโดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน สินทรัพย์ดิจิทัลมีลักษณะพิเศษที่ทำให้สามารถโอนย้ายและแลกเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว และสะดวก ทำให้การลงทุนเงินดิจิทัล กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากมีความสะดวกและสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว

สินทรัพย์ดิจิทัล แบ่งออกเป็น 7 ประเภท

• สกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrencies) สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรมและการเก็บรักษาข้อมูล ที่รู้จักกันดีได้แก่ Bitcoin, Ethereum, Litecoin การซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้สามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มการเทรดสกุลเงินดิจิทัล
• โทเคน (Tokens) เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ออกโดยโครงการหรือแพลตฟอร์มบนบล็อกเชน โทเคนสามารถแบ่งได้เป็นสองประเภทหลัก ได้แก่ โทเคนที่เป็นสินทรัพย์ (Asset Tokens) และโทเคนที่เป็นบริการ (Utility Tokens) โทเคนที่เป็นทรัพย์สินมีมูลค่าในตัวเอง เช่น การถือครองทรัพย์สินในรูปแบบดิจิทัล ส่วนโทเคนที่เป็นบริการใช้ในการเข้าถึงบริการหรือผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มที่ออกโทเคน โทเคนที่เป็นบริการมักถูกใช้เพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้งานแพลตฟอร์มหรือเข้าถึงฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ
• โทเคนที่สามารถแปลงเป็นเงินสดได้ (Stablecoins) เป็นโทเคนที่ออกแบบมาให้มีมูลค่าเสถียร โดยมักผูกกับสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่ เช่น เงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ตัวอย่างเช่น Tether (USDT) และ USD Coin (USDC) ทำให้ผู้ถือครองสามารถมั่นใจได้ว่ามูลค่าของโทเคนจะไม่ผันผวนมากนักในตลาด Stablecoins เป็นที่นิยมในการใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากมีความเสถียรและลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาสกุลเงินดิจิทัล
• สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่สามารถทดแทนได้ (Non-Fungible Tokens, NFTs) NFTs เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวและไม่สามารถแทนที่กันได้ แต่ละ NFT มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งทำให้มีมูลค่าในตัวเอง ในวงการศิลปะ ดนตรี เกม และของสะสมดิจิทัล การเทรด NFTs นั้นมีความแตกต่างกันจากการเทรดสกุลเงินดิจิทัลทั่วไป เพราะ NFTs มักเกี่ยวข้องกับผลงานศิลปะหรือทรัพย์สินที่มีมูลค่าทางวัฒนธรรม
• สัญญาอัจฉริยะ (Smart Contracts) สัญญาอัจฉริยะเป็นโปรแกรมที่ทำงานบนบล็อกเชนและสามารถดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้โดยอัตโนมัติ การใช้สัญญาอัจฉริยะช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความโปร่งใสในการทำธุรกรรม สัญญาอัจฉริยะถูกนำมาใช้ในหลากหลายด้าน เช่น การจัดการทรัพย์สิน การทำธุรกรรมทางการเงิน และการจัดการสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญา
• โทเคนด้านการเงิน (DeFi Tokens) โทเคนด้านการเงิน หรือ DeFi Tokens เป็นโทเคนที่ใช้ในระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance) ซึ่งมุ่งเน้นการให้บริการทางการเงินผ่านบล็อกเชน เช่น การให้กู้ยืม การฝากเงินเพื่อรับดอกเบี้ย และการซื้อขายหลักทรัพย์ การลงทุนใน DeFi Tokens นั้นมีความเสี่ยงแต่ก็มีโอกาสให้ผลตอบแทนสูงสำหรับผู้ที่เข้าใจและสามารถรับความเสี่ยงได้
• โทเคนที่ใช้ในเกม (Game Tokens) โทเคนที่ใช้ในเกมเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่ใช้ในการซื้อขายสินทรัพย์ในเกมหรือใช้ในการเข้าถึงฟีเจอร์พิเศษในเกม การเทรดโทเคนเหล่านี้สามารถทำได้บนแพลตฟอร์มที่รองรับและมักเกี่ยวข้องกับเกมที่มีระบบเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข็งแกร่ง

ที่มา  :   https://merkle.capital/articles/digital-asset-invesment

https://www.sec.or.th/TH/Documents/DigitalAsset/UtilityToken.pdf