การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพนั้น ในปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ในทุกๆ เพศ ทุกวัย เพราะการออกกำลังกายนั้นมีประโยชน์มาก ถ้าเราออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานได้ดี เลือดสามารถไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้มากขึ้น ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ โรคความดันต่ำ มีภูมิต้านทานของร่างกายดีขึ้น และป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคข้อเสื่อม นอกจากนี้การออกกำลังกายช่วยในการควบคุมน้ำหนัก การทรงตัว และทำให้การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้น ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ช่วยลดความเครียด และทำให้การนอนหลับพักผ่อนดีขึ้น แต่จะทำอย่างไรให้เราออกกำลังแล้วปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย หลังจากที่เราเตรียมความพร้อม และได้ออกกำลังกายจนการออกกำลังกายนั้นเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของเรา เราต้องการเพิ่มความฟิตร่างกายก็สามารถกระทำได้ โดยเราควรเลือกการออกกำลังกายที่ชอบและสะดวกที่สุด แต่สำหรับคนที่มีอายุมากกว่า 45 ปี หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มการเลือกวิธีการออกกำลังกาย นอกจากนี้ในการออกกำลังกายไม่ควรหักโหมมากในครั้งแรก ๆ การออกกำลังกายที่ดี ควรเป็นการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ทำเป็นครั้งคราวแต่หักโหม และไม่ควรกลั้นหายใจหรือสูดลมหายใจอย่างแรง ควรหายใจเข้าและออกยาว ๆ เพื่อช่วยระบบการหายใจของร่างกาย และขณะออกกำลังกายเราสามารถสังเกตอาการของตนเองขณะออกกำลังกายว่าทำมากไปหรือไม่ โดยสังเกตอาการของเราเองว่ามีอาการ หัวใจเต้นมากจนรู้สึกเหนื่อยหรือไม่ มีอาการหายใจเหนื่อยจนพูดไม่เป็นประโยค หรือมีอาการเหนื่อยจนเป็นลม หากมีอาการดังกล่าว เราควรหยุดการออกกำลังกายสัก 2 วัน และเวลาออกกำลังกายในครั้งต่อไปให้ลดระดับการออกกำลังกายลง
การเตรียมตัวก่อนออกกำลังกาย ก่อนออกกำลังกายทุกครั้ง เราต้องทำการอบอุ่นร่างกายก่อน อาจใช้วิธีเดินภายในบ้าน รอบบ้าน หรือเดือนบนสายพาน ฯลฯ โดยปกติแล้วควรใช้เวลาในการอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที ซึ่งในการทำความอบอุ่นร่างกายนี้จะทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้น และหลอดเลือดมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น เป็นการป้องกันการบาดเจ็บจากการออกกำลังกายอีกด้วย
การปฏิบัติตัวหลังการออกกำลังกาย หลังจากออกกำลังกายแล้ว อย่าหยุดออกกำลังกายในทันที โดยเฉพาะถ้าเราออกกำลังกายอย่างหนัก เพราะจะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ทัน อาจทำให้เกิดอาการหน้ามืด ควรอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาที จนกระทั่งชีพจรกลับคืนสู่สภาพปกติ และควรดื่มน้ำให้เพียงพอภายหลังออกกำลังกาย
ดังนั้นหากเราต้องการความแข็งแรงของร่างกายทุกส่วน ทุกอวัยวะ เราควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 20-30 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ก็เพียงพอที่จะเสริมสร้างให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี ผ่อนคลายความตึงเครียด ทำให้อารมณ์ดี และยังช่วยป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้อีกด้วย
เรื่องโดย พิชามญชุ์ กาหลง สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ ม.มหิดล