ความดันบรรยากาศมีขนาดน้อยลงเมื่ออยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากขึ้น
ทำให้ต้องมีการปรับความดัน ภายในตัวเครื่องบินเมื่อบินสูงที่ระดับ 35,000
ฟุต และเมื่อเราลงว่ายน้ำในสระ เราจะรู้สึก ถึงความดันของน้ำได้ว่า มันเปลี่ยนไปเมื่อเราอยู่ลึกจากผิวน้ำที่ระดับต่างๆ
กัน นั่นคือ ยิ่งว่ายลึกลงไปเราจะยิ่งรู้สึกว่าน้ำดันเรามากขึ้น เราจะหาความสัมพันธ์ระหว่างความดันและความลึก
(หรือความสูง)
ความดันกับความลึก |
|
การทำงานของเครื่องยกไฮดรอลิกดังแสดงในรูปที่
7-4 เป็นตัวอย่างหนึ่งของกฎของปาสคาลลูกสูบ (piston) อันหนึ่งมีพื้นที่หน้าตัดเล็ก
ๆ A1 ออกแรง F1 กระทำบนผิวของของไหลชนิดหนึ่ง
เช่น น้ำมัน ดังนั้นความดันขนาด
จะถูกส่งผ่านไปตามท่อไปยังลูกสูบที่มีขนาดใหญ่กว่าซึ่งมีพื้นที่หน้าตัด
A2 ปริมาณความดันที่ได้รับในทั้งสองท่อจะเท่ากัน ดังนั้น
และ |
(7-7)
|
เครื่องยกไฮดรอลิกเป็นเครื่องมือทุ่นแรงชนิดหนึ่ง
โดยกำลังขยายของแรง ขึ้นกับอัตราส่วนของพื้นที่หน้าตัดของลูกสูบทั้งสอง
เก้าอี้ของหมอฟัน แม่แรงยกรถ ลิฟต์บางประเภทและเบรกไฮดรอลิก ล้วนใช้หลักการเดียวกันนี้
สำหรับแก๊ส
ความหนาแน่นของแก๊สจะมีค่าคงที่เฉพาะในช่วงระยะความสูงสั้น ๆ เท่านั้น
ในห้องห้องหนึ่งที่เพดานอยู่สูงจากพื้นห้อง 3 m เต็มไปด้วยอากาศที่มีความหนาแน่นคงที่
1.2 kg/m3 ผลต่างระหว่างความดันที่พื้นและที่เพดานคือ
= (1.2 kg/m3)(9.8 m/s2)(3.0 m) = 35 Pa หรือประมาณ 0.00035
atm ซึ่งเป็นปริมาณที่น้อยมาก แต่หากพิจารณาระหว่าง ที่ระดับน้ำทะเลกับที่ยอดเขา
Everest (สูงจากระดับน้ำทะเล 8,882 m) ที่ซึ่งความหนาแน่นของอากาศน้อยลงถึง 3 เท่า
เราไม่สามารถใช้สมการ มาคิดหาผลต่างความดันได้
เนื่องจากความหนาแน่นของอากาศ ในระยะความสูงขนาดนี้มีค่าไม่คงที่ ในทางตรงกันข้าม
ของเหลวโดยมาก เป็นของไหลที่ไม่สามารถบีบอัดได้ (incompressible) นั่นคือมีความหนาแน่นคงที่
เราสามารถประมาณได้ว่า ความหนาแน่นของของเหลวมีค่าคงที่ไม่ขึ้นกับความดัน
|
ตัวอย่างที่ 7-3 |
|
เครื่องยกไฮดรอลิก
ดังแสดงในรูปที่ 9-4 ใช้ในการยกรถขนาด 15000 N ลูกสูบที่ใช้ยกรถมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง
36 cm ถ้าลูกสูบอีกฝั่งหนึ่งทำงานโดยการอัดอากาศลงไป จะต้องใช้อากาศความดันเท่าไรจึงทำให้พยุงรถอยู่ได้
วิธีทำ
จากกฎของปาสคาล
ความดันถูกส่งผ่านไปภายในภาชนะปิดเป็นปริมาณเท่า ๆ กัน ดังนั้นความดันอากาศที่ใช้ดันลูกสูบจึงเท่ากับความดันบนลูกสูบที่ใช้ยกรถ
ดังนี้
|
UP
|
ความดันเกจและความดันสัมบูรณ์ (absolute pressure and gauge
pressure) |
|
ถ้าความดันภายในยางรถยนต์มีขนาดเท่ากับความดันบรรยากาศ
ยางจะแบน ความดันภายใน ยางรถยนต์จะต้อง มีขนาดมากกว่าความดันบรรยากาศจึงจะสามารถพยุงรถอยู่ได้
ปริมาณที่เราสนใจคือ ผลต่างระหว่างความดันภายในกับความดันภายนอก เมื่อเราพูดว่าความดันของยางรถยนต์มีค่า
32 ปอนด์ (พูดสั้น ๆ แทน 32 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว (lb/in2
หรือ psi) ซึ่งมีค่าเท่ากับ 220 kPa) เราจะหมายความว่า ความดันภายในยางรถมีขนาดมากกว่าความดันบรรยากาศเป็นปริมาณ
32 ปอนด์ (ความดันบรรยากาศ มีค่าเท่ากับ 14.7 lb/in2 หรือประมาณ
101 kPa) นั่นหมายถึงความดันสุทธิภายในยางรถยนต์คือ 47 lb/in2
หรือ 321 kPa
เราเรียกผลต่างระหว่างความดันภายในภาชนะกับความดันบรรยากาศว่า
ความดันเกจ (gauge pressure) จากตัวอย่างข้างต้น 32 lb/in2
คือ ความดันเกจ ความดันสุทธิภายในภาชนะเรียกว่า ความดันสัมบูรณ์ (absolute
pressure) จากตัวอย่างข้างต้น ความดันสัมบูรณ์ของยางรถยนต์คือ 47 lb/in2
UP
|
เครื่องวัดความดัน (pressure gauges) |
|
Mercury
Barometer
เครื่องวัดความดันที่ง่ายที่สุดเครื่องหนึ่งคือ
mercury barometer ซึ่งใช้สำหรับ วัดความดันบรรยากาศ mercury barometer
ประกอบด้วยท่อที่ปลายหนึ่งปิดและบรรจุปรอทไว้เต็ม จากนั้นก็กลับท่อให้ปลายปิดอยู่ด้านบนและจุ่มลงในอ่างที่ใส่ปรอทไว้ดังรูปที่
7-5 ในช่องว่างด้านบนของท่อที่ปลายปิดโดยมากจะเป็นที่ว่าง อาจจะมีไอของปรอทอยู่บ้างแต่ก็มีปริมาณน้อยมาก
ความดันในบริเวณที่ว่างนั้นจึงมีค่าน้อยมากจนอาจถือว่ามีความดันเป็นศูนย์
พิจารณาจากรูปและใช้ความสัมพันธ์
เราจะได้ว่า
นั่นคือ
mercury barometer ใช้ในการอ่านค่าความดันบรรยากาศ 30
ได้โดยตรงจากความสูงของลำปรอทในท่อ โดยทั่วไปนักพยากรณ์อากาศ จะรายงานความดันอากาศ
ในรูปของความสูง ในหน่วยนิ้วปรอท
หรือ มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ความสูงของปรอทใน mercury barometer เมื่อความดันบรรยากาศมีค่าเป็น
=
1 atm = 1.013 x 105 Pa คือ
นั่นคือ
ความดันบรรยากาศ 1 atm มีค่าเป็น 760 mmHg ซึ่งมีชื่อเรียกว่า 1 torr
ตามชื่อของผู้ประดิษฐ์ mercury barometer คือ Evangelista Torricelli
(ค.ศ. 1608 1647) เนื่องจากค่าและหน่วยความสูงของปรอทขึ้นกับความหนาแน่นของปรอทซึ่งเปลี่ยนแปลงตามอุณหภูมิ
และขึ้นกับค่า g ซึ่งเปลี่ยนแปลงตามสถานที่ หน่วย Pascal จึงเป็นที่นิยมใช้มากกว่าสำหรับความดันบรรยากาศ
UP
|
Open-Tube
Manometer
เครื่องวัดความดันอย่างง่ายอีกแบบหนึ่งคือ
open-tube manometer มีลักษณะ ดังแสดงในรูปที่ 7-6 คำว่า open-tube
หมายถึงว่าปลายหนึ่งของหลอดรูปตัว U จะเปิดอยู่ ความดันที่ปลายเปิดจึงเท่ากับความดันบรรยากาศ
ภายในท่อรูปตัว U บรรจุของเหลวอยู่ซึ่งโดยมากจะใช้ปรอทหรือน้ำ อีกปลายหนึ่งของท่อจะต่ออยู่กับภาชนะที่ภายในมีความดัน
ที่ต้องการวัด
ความดันที่ก้นท่อเนื่องจากของไหลในท่อด้านซ้ายมีขนาดเป็น
และความดันที่ก้นท่อเนื่องจากของไหลในท่อด้านขวามีขนาดเป็น เนื่องจากความดันสองค่านี้วัดที่ระดับเดียวกันจึงมีค่าเท่ากัน
นั่นคือ
ในสมการนี้
คือความดันสัมบูรณ์ และผลต่างระหว่างความดันสัมบูรณ์กับความดันบรรยากาศ
คือความดันเกจ จะเห็นว่าความดันเกจมีค่าแปรผันตรงกับผลต่างความสูง
ระหว่างของไหลในท่อทั้งสองด้าน
UP
|
|