ฮอร์โมนส่วนใหญ่เป็นเปปไทด์ฮอร์โมน ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโนจำนวนแตกต่างกัน ต่อกันเป็นสายเปปไทด์ (peptide chain) ทำให้ฮอร์โมนในกลุ่มนี้ มีขนาดแตกต่างกัน มากตั้งแต่เล็กที่สุด คือ   ไทโรโทรปิน รีลีสซิ่งฮอร์โมน (thyrotropin releasing hormone: TRH) ซึ่งประกอบด้วยกรดอะมิโน 3 ตัวไปจนถึงโปรตีนฮอร์โมนที่มีขนาดโมเลกุลใหญ่ เช่น โกรธฮอร์โมน (growth hormone) เป็นต้น

Glu – His – Pro

ไทโรโทรปิน รีลีสซิ่งฮอร์โมน (TRH)

 สูตรโครงสร้างของไทโรโทรปิน รีลีสซิ่งฮอร์โมน (TRH) ซึ่งมีขนาดเล็ก

สูตรโครงสร้างของโกรทฮอร์โมน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นเปปไทด์ฮอร์โมน

นอกจากนี้ยังมีฮอร์โมนบางตัว เช่นพาราไทรอยด์ฮอร์โมน (parathyroid hormone) และอินซูลิน (insulin) โปรตีนฮอร์โมนบางชนิดที่รวมกับ คาร์โบไฮเดรต (carbohydrate) เรียกว่า ไกลโคโปรตีน (glycoprotein) ได้แก่ฮอร์โมนกลุ่มโทรปิกฮอร์โมน ( tropic hormone) และโกนาโดโทรปิน (gonadotropin) ได้แก่ LH, FSH, HCG และ TSH นอกจากนี้ยังพบที่ต่อมใต้สมองส่วนหลัง หรือบางส่วนของไฮโพทาลามัส (hypothalamus) เช่น ฮอร์โมนออกซิโทซิน

ฮอร์โมนเหล่านี้ละลายน้ำได้ดี (hydrophilic) แต่ไม่ละลายในไขมัน (hydrophobic) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ ทำให้ฮอร์โมนจับกับ ตัวรับสัญญาณที่เยื่อหุ้มเซลล์ ไม่สามารถซึมผ่าน เยื่อหุ้มเซลล์ที่มีส่วนประกอบ เป็นไขมันได้

นักวิทยาศาสตร์ท่านใดที่ค้นพบไทโรโทรปิน รีลีสซิ่งฮอร์โมน (thyrotropin releasing hormone) ซึ่งทำให้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์

การค้นพบไทโรโทรฟิน รีลีสซิ่งฮอร์โมน (thyrotropin releasing hormone) มีนักวิทยาศาส ตร์ 2 ท่านชื่อโรเจ กีเยอแมง(Roger Guillemin) เป็นชาวฝรั่งเศส และแอนดรู  วี  ซัลลี (Andrew V. Schally ) เป็นชาวโปแลนด์ ได้ทำการศึกษาที่สำคัญคือ

Roger Guillemin	Andrew V. Schally

โรเจ กีเยอแมงและแอนดรู  ซัลลี ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับไทโรโทรปิน รีลีสซิ่งฮอร์โมนจากไฮโพทาลามัส โดยกลุ่มของโรเจ  กีเยอแมง ศึกษาจากไฮโพทาลามัส โดยใช้แกะ ประมาณ 2 ล้านตัว หรือไฮโพทาลามัสประมาณ 20 ตันในขณะที่กลุ่มของแอนดรู  วี  ซัลลี ศึกษา ไฮโพทาลามัสของหมูประมาณ 1 ล้านตัว จนพบว่าไทโรโทรปิน รีลีสซิ่งฮอร์โมน เป็นเปปไทด์ที่มีกรด อะมิโน 3 ตัว

จากการค้นพบนี้ เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ในการศึกษาโครงสร้างทางเคมีของสารต่างๆ การศึกษานี้ท่านทั้งสองได้รับรางวัลโนเบล สาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ ในปี ค.ศ. 1977 โดยได้รับร่วมกับโรซาลิน  ยาโลว์ ( Rosalyn Yalow) ชาวอเมริกัน ซึ่งได้ทำการศึกษาเอกลักษณ์ของเปปไทด์โดยใช้เทคนิคการตรวจฮอร์โมนอย่างจำเพาะ โดยใช้โปรตีนคุ้มกันร่วมกับสารกัมมันตรังสี (radioimmunoassay : RIA) ซึ่งวิธีนี้เป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะสามารถทำให้ ได้ผลการทดลองที่ถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็วแม้ว่าจะใช้สารที่ศึกษาเพียงเล็กน้อยก็ตาม

 โรซาลิน ยาโลว์ (Rosalyn Yalow)