ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ
เรื่อง : อัจฉราพรรณ โพธิ์ทอง
การตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารระดับนานาชาตินั้นเป็นเป้าหมายสำคัญของนักวิจัยทั่วโลก เนื่องจากเป็นการยอมรับในระดับสากลและเป็นการเผยแพร่ผลงานออกไปสู่ชุมชนวิชาการที่กว้างขวางขึ้น อย่างไรก็ตาม การจะประสบความสำเร็จในการตีพิมพ์นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ดังนี้
• คุณภาพของงานวิจัย: ความคิดริเริ่มใหม่ วิธีวิทยาที่ถูกต้อง ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และการตีความผลที่สอดคล้อง
• การเลือกวารสาร: ความเหมาะสมของวารสารกับเนื้อหา Impact Factor ชื่อเสียงของวารสาร และค่าใช้จ่ายในการตีพิมพ์
• การเขียนบทความ: โครงสร้างบทความที่ชัดเจน ภาษาที่ถูกต้องและชัดเจน การอ้างอิงที่ถูกต้อง และการเรียบเรียงที่เป็นระบบ
• กระบวนการพิจารณาผลงาน: ผู้วิจารณ์ ข้อเสนอแนะ และการแก้ไขตามข้อเสนอแนะ
• ปัจจัยอื่นๆ: เครือข่าย การสนับสนุน ประสบการณ์ และปัจจัยส่วนบุคคล เช่น ความสามารถทางภาษา ทักษะในการสื่อสาร
• ปัจจัยภายนอก: นโยบายทางวิชาการ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง และความต้องการของผู้อ่าน
นอกจากนี้ ปัจจัยด้านสถาบัน เช่น การสนับสนุนจากสถาบัน และวัฒนธรรมองค์กร ก็มีส่วนสำคัญในการเพิ่มโอกาสในการตีพิมพ์ผลงาน
ผู้เขียนขอยกตัวอย่างงานวิจัยของ เดชดนัย จุ้ยชุมและคณะ (2562) ที่ได้ทำการศึกษา ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการในวารสารระดับนานาชาติของอาจารย์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร จำนวน 120 คน พบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติ ได้แก่ 1) เพศ 2) ระดับการศึกษา และ 3) อายุ สังเกตได้ว่า เป็นปัจจัยส่วนบุคคลที่สำคัญสุดในการตีพิมพ์ผลงาน อาจารย์ควรมีการพัฒนาศักยภาพ ของตนเองในด้านความรู้ และประสบการณ์ รวมถึงด้านภาษาเพื่อการตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการในวารสารระดับนานาชาติที่มากขึ้น
งานวิจัยของนรา หัตถสิน และวิริญญา ชูราษี (2560) ได้วิเคราะห์ปัจจัยจูงใจในการตีพิมพ์ผลงานวิชาการของอาจารย์: ศึกษากรณีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จำนวน 115 คน ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยจูงใจภายในด้านความสำเร็จในงานและปัจจัยจูงใจภายนอกด้านชีวิตส่วนตัวเป็นปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการผลิตผลงานวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์ของอาจารย์ ในขณะที่ปัจจัยจูงใจด้านโอกาสในการเติบโต ด้านความสำเร็จในงานด้านการได้รับการยอมรับ ด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชา เป็นปัจจัยที่อาจารย์กลุ่มผลิตผลงานวิชาการและอาจารย์กลุ่มที่ไม่ได้ผลิตผลงานมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนสภาพปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการผลิตผลงานวิชาการคือปัญหาด้านข้อจำกัดด้านเวลา ด้านเงินทุน และด้านระบบสนับสนุนการผลิตผลงานวิชาการเพื่อการตีพิมพ์
งานวิจัยของ เนตรนภัส จันทร์พ่วง และดุสิต อธินุวัฒน์ (2559) ได้ทำการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตผลงานวิจัยของบุคลากรสายวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จำนวน 97 คน พบว่า เหตุผลหลักในการทำวิจัยเนื่องจากมีความสนใจใคร่รู้ ต้องการทำผลงานเพื่อขอเลื่อนตำแหน่งทางวิชาการ และเห็นคุณค่าของตนเองในการทำวิจัย สำหรับเหตุผลหลักที่จะไม่ทำวิจัยเนื่องจากภาระงานสอนมาก (53.2%) ขาดงบประมาณและเครื่องมือในการทำวิจัย (41.2%) นอกเหนือจากนี้ ภาระงานสอน ตำแหน่งทางวิชาการ ทักษะการวิจัย แหล่งค้นคว้าข้อมูล ผู้สนับสนุน เพื่อนร่วมงาน และความเชื่อมั่นในตนเอง มีผลต่อการทำวิจัยและการผลิตผลงานวิจัยตีพิมพ์แตกต่างทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05
การตีพิมพ์ผลงานวิจัยในระดับนานาชาติเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องใช้ความพยายามอย่างต่อเนื่อง นักวิจัยควรให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบการวิจัย การเขียนบทความ ไปจนถึงการตอบกลับข้อเสนอแนะของผู้วิจารณ์ การมีเครือข่ายที่ดี การได้รับการสนับสนุน และการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จได้
เอกสารอ้างอิง
1. เดชดนัย จุ้ยชุม , รสสุคนธ์ แสงมณี , ศิริพันธุ์ ศิริพันธุ์ , ดิชิตชัย เมตตาริกานนท์ และรจเรข กำแหงกิจ. (2562). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตีพิมพ์ผลงานทางวิชาการในวารสารระดับนานาชาติของอาจารย์ มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์, 6(2), 1 – 13.
2. นรา หัตถสิน และวิริญญา ชูราษี. (2560). การวิเคราะห์ปัจจัยจูงใจในการตีพิมพ์ผลงานวิชาการของอาจารย์: ศึกษากรณีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, 8(2), 19 – 36.
3. เนตรนภัส จันทร์พ่วง และดุสิต อธินุวัฒน์. (2559). ปัจจัยที่ส่งผลต่อการผลิตผลงานวิจัยของบุคลากรสายวิชาการ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. Thai Journal of Science and Technology, 5(1), 1 – 19.
- หน้าแรก
- EDITOR’S NOTE
- ศึกษาปริทัศน์ : การใช้โซเชียลมีเดียในการเรียนรู้และการสื่อสาร: วิเคราะห์ประโยชน์และข้อควรระวังของการใช้โซเชียลมีเดียในการเรียนรู้
- นวัตกรรมจากสถาบัน : การแปลงคำพูดภาษาไทยเป็นทางคณิตศาสตร์
- นวัตกรรมจากสถาบัน : การสำรวจประสบการณ์การเรียนรู้ด้านวิธีการฉีดยาเด็กในกลุ่มพยาบาลวิชาชีพและนักศึกษาพยาบาลโดยใช้แนวทางการคิดเชิงออกแบบ
- สาระน่ารู้ : ถอดบทเรียนเรื่อง การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล และวิธีป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์บน Google Workspace (ตอน 2)
- สาระน่ารู้ : ปัจจัยที่ส่งผลต่อการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในระดับนานาชาติ
- สาระน่ารู้ : How to สร้าง character จาก AI ให้หน้าตาไม่เปลี่ยน
- สาระน่ารู้ : Prompt Engineering with Colab and Groq การเขียนคำสั่ง PROMPT ด้วย COLAB,GROQ จาก GOOGLE
- สาระน่ารู้ : การปฏิบัติต่อความสุข
- สาระน่ารู้ : การใช้เทคโนโลยี AI กับสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย
- สาระน่ารู้ : รู้จักกับโมเดลภาษาขนาดเล็ก – Small Language Model (SLM)
- สาระน่ารู้ : รายวิชาศึกษาทั่วไปของมหาวิทยาลัยมหิดลแตกต่างจากที่อื่นอย่างไร
- สาระน่ารู้ : การปรับเครื่องเสียงสำหรับห้องเรียนห้องประชุมเบื้องต้น
เนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่านหรือไม่ โปรดให้คะแนน




