จุลสารนวัตกรรม ฉบับที่ 73 – สาระน่ารู้ เรื่อง ความรัก : พ่อแม่อยู่ที่ไหนในหัวใจลูก

Newsletters

ความรัก : พ่อแม่อยู่ที่ไหนในหัวใจลูก

เรื่อง : ดร.มนัสวี ศรีนนท์

        สาระน่ารู้ฉบับนี้ ผู้เขียนจะชวนท่านผู้อ่านสนทนากันในเรื่องที่ไม่ไกลตัวนักและเป็นเรื่องที่ทุกท่านพึ่งผ่านวันวาเลนไทน์มา ดังนั้น หากจะนำเรื่องนี้มาคุยก็น่าจะทำให้ได้แง่คิดเอาไปใช้กับชีวิตจริงได้อย่างทันท่วงที เพราะในปัจจุบัน เวลาพูดถึงวันวาเลนไทน์หรือพูดเรื่องความรักแล้ว พื้นที่ทางสังคมหรือแม้แต่พื้นที่ทางจิตใจของลูกชายลูกสาวแทบไม่มีช่องว่างให้กับผู้มีพระคุณอย่างเช่นพ่อแม่เลย ในที่นี้ จึงนำเสนอเนื้อหาเรื่องความรักที่ผูกโยงกับการปฏิบัติตนของลูกทั้งหลายที่เกิดขึ้นและมีคำถามอยู่ในสังคมไทยในปัจจุบันดังต่อไปนี้
    1. พ่อแม่ไม่มีบุญคุณ จึงไม่ควรรัก คำถามและคำตอบแบบนี้ในเรื่องความรักกับความเป็นผู้มีบุญคุณของพ่อแม่นั้นได้ถูกคนสมัยใหม่ในยุคนี้ปฏิบัติตามกันแล้ว ดังจะเห็นได้จากหลายคนให้เหตุผลว่าไม่ควรรักและไม่มีบุญคุณของพ่อแม่ เพราะการที่พ่อแม่แต่งงานแล้วมีลูกจนต้องมาเลี้ยงดูลูกนั้นเป็นเพียงการทำตามหน้าที่ที่สังคมออกแบบให้ หาใช่เป็นการมีเมตตากรุณาหรือคุณธรรมจริยธรรมอื่น ๆ ที่พ่อแม่มีจนทำให้ลูกเกิดมาและมาเลี้ยงดูต่อไปจนเติบโตไม่ ดังนั้น พ่อแม่จึงไม่มีบุญคุณ จึงไม่ควรที่จะแสดงออกซึ่งความรักหรือการดูแลเอาใจใส่ตอบแทนใด ๆ เรียกว่าไม่ต้องแสดงความกตัญญูกตเวทีตอบแทนนั่นเอง นี้ก็เป็นอีกความคิดหนึ่งที่มีอยู่กับคนรุ่นสมัยปัจจุบัน ซึ่งกล้าพูดเลยว่าในอดีตนั้นไม่น่าจะมีหรือถ้ามีก็ไม่ได้รับการยอมรับแน่นอน
2. พ่อแม่เป็นผู้มีบุญคุณ จึงควรรัก คำตอบแบบนี้เป็นเรื่องที่สอดคล้องกับความเชื่อ ศาสนา วัฒนธรรม และแนวความคิดที่มีอยู่ทั่วไปในสังคมไทยและสังคมโลก กล่าวคือ การดูแลพ่อแม่หรือการมอบความรัก ความเอาใจใส่ดูแลนั้นเป็นหน้าที่ของลูกทั้งหลายอยู่แล้ว โดยเบื้องหลังความคิดแบบนี้ได้ให้เหตุผลไว้อย่างชัดเจนมาตลอดว่าพ่อแม่เป็นผู้มีพระคุณหรือเป็นบุพการี (ผู้ทำอุปการะมาก่อน) ดังนั้น ลูกทั้งหลายจึงควรได้ทำหน้าที่ดูแลท่านตอบแทน ไม่ว่าจะเป็นการดูแลในช่วงที่ท่านเป็นผู้สูงอายุหรือไม่ก็ตาม ก็ควรที่จะได้ตอบแทนตามศักยภาพที่ลูกมี ดังนั้น ในแนวคิดที่สองนี้จึงเป็นการเชื่อมโยงความรักของพ่อแม่กับลูกและความรักของลูกกับพ่อแม่ โดยไม่ได้มองแค่ว่าเป็นเพียงหน้าที่ที่พ่อแม่ต้องดูแลลูก แต่มองว่าเป็นการมีคุณธรรมจริยธรรมแห่งความเป็นพ่อแม่หรือเป็นพรหมของลูกเป็นหลักสำคัญ ด้วยว่าลูกจะเป็นเช่นไรก็ตาม ความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูกนั้นไม่เคยเสื่อมคลาย ทั้งในขณะที่มีชีวิตอยู่หรือแม้แต่สิ้นลมหายใจไปแล้วก็ตาม
        สรุปแล้ว เรื่องความรักที่ผู้เขียนนำมาผูกโยงกับวาเลนไทน์ในครั้งนี้เป็นความพยายามที่อยากจะนำเสนอให้เห็นว่าเรื่องความรักนี้ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของคนหนุ่มสาวเท่านั้น เพราะความรักของหนุ่มสาวนั้นไม่น่าจะคาดการณ์ถึงอนาคตได้ว่าจะอยู่มั่นคงได้ไปอีกกี่วันเดือนปี ตรงกันข้าม เรื่องความรักของพ่่อแม่ที่มีต่อลูกทั้งหลายนี้สามารถเดาหรือคาดการณ์ได้เลยว่าจะเป็นเช่นเดิมตลอดไป สืบเนื่องจากว่าความรักของพ่อแม่นั้นเป็นความรักที่บริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง เป็นความรักที่ปลูกสร้างขึ้นมาด้วยเมตตาอย่างสูงสุด กล่าวคือเมื่อลูกตกทุกข์ได้ยาก พ่อแม่ก็ไม่ทิ้งหายไปไหน พร้อมแบกรับให้ความทุกข์ของลูกเบาบางลง หรือแม้เมื่อลูกประสบความสำเร็จในชีิวิต พ่อแม่ยิ่งมีความสุข เพราะได้เห็นความเจริญเติบโตจนสามารถยืนด้วยลำแข้งของตนเองได้นั่นเอง ดังนั้น เมื่อวันแห่งความรักมาถึงแล้ว จึงขอให้พื้นที่แห่งความรักเกิดขึ้นจนเต็มในหัวใจของลูกทั้งหลาย ที่ในปัจจุบันมักถูกกล่อมเกลาด้วยแนวคิดแบบวัฒนธรรมฝรั่งหรือตะวันตกที่แม้พวกเขาเองก็เริ่มไม่เป็นสุขกันแล้ว ขอความรักในพ่อแม่และความรักในลูกจงเบ่งบานในหัวใจกันและกันตลอดไป

สารบัญ

เนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่านหรือไม่ โปรดให้คะแนน

น้อยที่สุดน้อยมากมากที่สุด (No Ratings Yet)
Loading…
Views : 34 views