จุลสารนวัตกรรม ฉบับที่ 74 – สาระน่ารู้ เรื่อง กิจกรรม STEM ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันและในอนาคต

Newsletters

กิจกรรม STEM ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันและในอนาคต

เรื่อง : จิราภรณ์ การะเกตุ

กิจกรรม STEM ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันและในอนาคต
        STEM หรือ สะเต็มศึกษา เป็นการเรียนรู้ที่ผสมผสานวิทยาศาสตร์ (Science), เทคโนโลยี (Technology), วิศวกรรม (Engineering) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล กิจกรรม STEM ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันและมีแนวโน้มได้รับความนิยมในอนาคตนั้น มีหลากหลายรูปแบบและมีความน่าสนใจมากมาย ดังนี้
กิจกรรม STEM ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
        ➤ การเขียนโปรแกรมและการพัฒนาแอปพลิเคชัน: การสอนให้เด็ก ๆ เขียนโค้ดเพื่อสร้างเกมส์ สร้างเว็บไซต์ หรือพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ เป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากเป็นทักษะที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต
        ➤ หุ่นยนต์: การประกอบและเขียนโปรแกรมหุ่นยนต์ให้ทำงานตามคำสั่ง เป็นกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการคิดเชิงตรรกะ
        ➤ การพิมพ์ 3 มิติ: การออกแบบและสร้างโมเดลสามมิติด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการผลิตและการออกแบบเชิงวิศวกรรม
        ➤ การทดลองวิทยาศาสตร์: การทำการทดลองวิทยาศาสตร์ที่สนุกสนานและน่าสนใจ ช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้หลักการทางวิทยาศาสตร์อย่างเข้าใจลึกซึ้ง
        ➤ การแข่งขันหุ่นยนต์และโครงงาน: การเข้าร่วมการแข่งขันหุ่นยนต์และโครงงานต่าง ๆ เป็นการนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้มาประยุกต์ใช้จริง และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาผลงานของตนเอง
แนวโน้มกิจกรรม STEM ในอนาคต
        ➤ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning: ปัจจุบันเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ นับเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมาก เนื่องจากเทคโนโลยี AI ก่อให้เกิดประโยชน์ในงานหลากหลายประเภท และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้แก่องค์กรได้ การเรียนรู้เกี่ยวกับ AI และ Machine Learning จะเป็นทักษะที่สำคัญในอนาคต AI และ Machine Learning มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทุกแง่มุมของชีวิตประจำวันของเรา ในอนาคตเราจะเห็นเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การรักษาโรคเรื้อรัง และการสำรวจอวกาศ
        ➤ Internet of Things (IoT): คำว่า IoT หรืออินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง (Internet of Things) หมายถึงเครือข่ายรวมของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อถึงกันและเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวกในการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์กับระบบคลาวด์ ตลอดจนระหว่างอุปกรณ์ด้วยกันเอง ซึ่งหมายความว่าอุปกรณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น แปรงสีฟัน เครื่องดูดฝุ่น รถยนต์ และเครื่องจักรสามารถใช้เซ็นเซอร์เพื่อรวบรวมข้อมูลและตอบสนองต่อผู้ใช้ได้อย่างชาญฉลาด IoT เป็นเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างมาก ในอนาคต สามารถลดระยะเวลาพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกได้มากยิ่งขึ้น
        ➤ Biotechnology และ Genetic Engineering: การศึกษาเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ โดยมีเทคโนโลยีที่เรียกว่า “พันธุวิศวกรรม” หรือการตัดต่อยีน เป็นส่วนที่สำคัญหนึ่ง กล่าวได้ว่าวิธีการนี้เป็นการคัดเลือกสายพันธุ์ โดยเจาะจงไปยังยีนที่ต้องการโดยตรง ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งสาขาที่น่าจับตามอง เทคโนโลยีชีวภาพและพันธุวิศวกรรมเป็นสองสาขาที่เกี่ยวข้องกันอย่างใกล้ชิดและกำลังเปลี่ยนแปลงโลกของเราอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีเหล่านี้มีศักยภาพในการแก้ปัญหาที่สำคัญของมนุษยชาติ เช่น การขาดแคลนอาหาร การรักษาโรค และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
        ➤ Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR): การพัฒนาแอปพลิเคชันและคอนเทนต์สำหรับ VR และ AR จะเป็นอีกหนึ่งตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็ว Virtual Reality (VR) และ Augmented Reality (AR): โลกเสมือนและโลกจริงผสานกัน จะเห็นได้ว่าความแตกต่างระหว่าง AR และ VR ทำให้การนำไปประยุกต์ใช้งานนั้นแตกต่างกัน โดย AR นั้นจะเน้นไปที่การผสานรวบรวมระหว่างวัตถุเสมือนรอบตัวเราเข้ากับสภาพแวดล้อมขณะนั้นจริง ๆ ส่วน VR นั้นจะเน้นที่ตัดขาดออกจากโลกจริงเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งทั้ง VR และ AR สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายด้าน เช่น ธุรกิจอุตสาหกรรม การแพทย์ การบันเทิง การสื่อสาร และ การศึกษา เป็นต้น
        ➤ Space Exploration: การสำรวจอวกาศและการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับอวกาศ จะเป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของมนุษยชาติ เนื่องจากช่วยให้เราเรียนรู้เกี่ยวกับจักรวาลและที่มาของเรา นอกจากนี้ การสำรวจอวกาศยังช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์บนโลกได้
สิ่งที่ผู้ปกครองและครูสามารถทำได้เพื่อส่งเสริมกิจกรรม STEM ให้นักเรียน
        ➤ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้: จัดหาอุปกรณ์และวัสดุที่จำเป็นสำหรับการทำกิจกรรม STEM เช่น ชุดหุ่นยนต์ ชุดทดลองวิทยาศาสตร์ หรือคอมพิวเตอร์ วัสดุที่หาได้ง่าย ๆ วัสดุรีไซเคิล เช่น ขวดน้ำ กระดาษลัง
        ➤ สนับสนุนให้เด็กๆ ได้สำรวจและทดลอง: ให้เด็ก ๆ ได้ลองผิดลองถูกและเรียนรู้จากข้อผิดพลาด และคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
        ➤ ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ทำงานร่วมกับผู้อื่น: การทำงานเป็นทีมจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้การสื่อสาร การแบ่งปันความคิดเห็น การเสนอและรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน พร้อมทั้งการแก้ปัญหาร่วมกัน
        ➤ ส่งเสริมให้เด็กๆ ได้เข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตร: เช่น เข้าร่วมอบรมค่าย STEM, การแข่งขันหุ่นยนต์ หรือโครงงานวิทยาศาสตร์ต่าง ๆ ที่โรงเรียนจัดและให้การสนับสนุน

        การส่งเสริมกิจกรรม STEM ให้กับเด็ก ๆ นั้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะจะช่วยให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตในศตวรรษที่ 21 และเป็นการเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้สร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมต่อไปในอนาคต ซึ่งผู้ปกครองที่สนใจกิจกรรม STEM เพิ่มเติม สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สถานศึกษา หรือค้นหาคอร์สเรียนและกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสะดวกต่อการเดินทางและเด็ก ๆ สามารถสร้างเครือข่ายสังคมแห่งการเรียนรู้ใกล้ ๆ ตัวได้มากยิ่งขึ้น และยังเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ STEM จะช่วยให้ผู้เรียนมีความพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ ในอนาคต
        สรุปแล้ว การเรียนรู้ STEM ไม่เพียงแต่เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอาชีพในอนาคตเท่านั้น แต่ยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ให้มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการแก้ปัญหาช่วยให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ปัญหาที่ซับซ้อนและหาแนวทางแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ที่มา :
https://www.nsm.or.th/nsm/th/node/4327
https://digital.lib.kmutt.ac.th/magazine/issue3/article4.html
https://aws.amazon.com/th/what-is/iot/
https://www.depa.or.th/th/article-view/tech-series-artificial-intelligence-ai

สารบัญ

เนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่านหรือไม่ โปรดให้คะแนน

น้อยที่สุดน้อยมากมากที่สุด (No Ratings Yet)
Loading…
Views : 3 views