จุลสารนวัตกรรม ฉบับที่ 78 – ศึกษาปริทัศน์ เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดผลกระทบทางสังคมจากการเปิดบ่อนคาสิโนเสรี

Newsletters

การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดผลกระทบทางสังคมจากการเปิดบ่อนคาสิโนเสรี

เรื่อง : ดร.มนัสวี มนต์ปัญญาวัฒนา

        การเปิดบ่อนคาสิโนเสรีเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในระดับนโยบายของหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มรายได้จากภาษีรัฐ ลดปัญหาบ่อนเถื่อน และส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม การเปิดคาสิโนเสรียังคงเป็นประเด็นถกเถียงในด้านผลกระทบทางสังคม โดยเฉพาะปัญหาการติดการพนัน การก่ออาชญากรรม การฟอกเงิน ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และผลกระทบต่อครอบครัวและชุมชน (Grinols & Mustard, 2006; Wong & Lee, 2020) ดังจะเห็นได้ในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ได้มีการกำหนดกรอบควบคุมที่เข้มงวดร่วมกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น ระบบตรวจสอบผู้เล่น (Player Tracking System) และระบบฐานข้อมูลกลาง (Central Exclusion System) เพื่อควบคุมและลดความเสี่ยงด้านสังคมจากการพนัน (Marquez, 2018) ในขณะที่ประเทศไทยยังไม่มีกรอบหรือโมเดลในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อบริหารจัดการคาสิโนอย่างเป็นระบบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบในวงกว้าง หากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างรอบคอบ กล่าวเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศในยุคดิจิทัล เช่น Big Data, AI, Blockchain และระบบ Early Warning นี้มีศักยภาพในการช่วยป้องกัน ตรวจสอบ และควบคุมผลกระทบทางสังคมจากการพนันได้อย่างมีประสิทธิภาพ (KPMG, 2019) ดังนั้น การเสนอบทความนี้จึงเป็นการศึกษาแนวทางการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อป้องกันและลดผลกระทบทางสังคมในกรณีที่ประเทศไทยจะตัดสินใจเปิดบ่อนคาสิโนเสรีในอนาคต โดยจะนำเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายและโมเดลที่เหมาะสมกับบริบทไทย ซึ่งยังไม่มีการศึกษาในเชิงลึกอย่างเป็นระบบมากนักในประเทศไทย

แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้อง
         การศึกษาเรื่องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดผลกระทบทางสังคมจากการเปิดบ่อนคาสิโนเสรีในครั้งนี้ เป็นการอ้างอิงแนวคิดหลักจากกรอบแนวคิดระบบสังคม-เทคโนโลยี (Socio-Technical Systems: STS) ซึ่งเสนอว่าการออกแบบและการนำเทคโนโลยีมาใช้งานที่ไม่สามารถแยกขาดจากระบบสังคม วัฒนธรรม การเมือง และเศรษฐกิจได้ (Trist, 1981; Bostrom & Heinen, 1977) กล่าวคือการใช้เทคโนโลยีไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาเครื่องมือให้มีประสิทธิภาพ แต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อมนุษย์และโครงสร้างทางสังคมโดยรวม
สำหรับแนวคิด STS นี้เป็นพื้นฐานสำคัญในการออกแบบนโยบายเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับการพนัน โดยเฉพาะในบริบทของคาสิโนเสรีซึ่งมีความเสี่ยงต่อผลกระทบทางสังคมอย่างหลากหลาย เช่น การติดการพนัน ปัญหาครอบครัว อาชญากรรม และการฟอกเงิน ดังนั้น แนวคิดนี้จึงช่วยให้การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมีความรอบด้าน ไม่เน้นเฉพาะความสามารถเชิงเทคนิคเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับกลไกการควบคุม การมีส่วนร่วมของชุมชน และการสร้างความยั่งยืนทางสังคม (Mumford, 2006) นอกจากนี้ การประยุกต์ใช้แนวคิด “การกำกับดูแลเทคโนโลยีอย่างมีความรับผิดชอบ” (Responsible Innovation) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีภายใต้การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การพิจารณาผลกระทบทางจริยธรรม และการคาดการณ์ผลกระทบในระยะยาว (Stilgoe, Owen, & Macnaghten, 2013) เป็นแนวคิดนี้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริบทของคาสิโนที่ต้องอาศัยการควบคุมโดยรัฐและการออกแบบระบบเทคโนโลยีเพื่อคุ้มครองกลุ่มเปราะบางในสังคม ดังในบริบทจากงานวิจัยของ Wong และ Lee (2020) แสดงให้เห็นว่า ประเทศที่ใช้ระบบฐานข้อมูลร่วมระหว่างภาครัฐกับคาสิโนมีแนวโน้มในการควบคุมผลกระทบทางสังคมได้ดีกว่า

ผลจากการศึกษาและวิเคราะห์
         การประยุกต์ใช้ Big Data และ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เล่น การใช้เทคโนโลยี Big Data และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ช่วยให้สามารถเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้เล่นในระบบคาสิโนได้เป็นแบบเรียลไทม์ โดยข้อมูลที่ทำการวิเคราะห์รวมถึงจำนวนครั้งในการเล่น ระยะเวลา ความถี่ของการเดิมพัน และการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพฤติกรรมซึ่งอาจสื่อถึงสภาวะเสพติดการพนัน ระบบ AI สามารถเรียนรู้และจำแนกรูปแบบของความเสี่ยงได้อย่างแม่นยำและต่อเนื่อง ซึ่งสามารถนำไปสู่การแจ้งเตือนแก่ผู้ใช้งาน ผู้ดูแล หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทันที เพื่อการแทรกแซงอย่างทันท่วงที ดังนั้น การมีระบบดังกล่าวจะเอื้อให้เกิดการออกแบบโปรแกรมบำบัด การให้คำปรึกษา หรือการจำกัดสิทธิ์ในการเข้าเล่นสำหรับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นแนวทางที่เริ่มใช้แล้วในประเทศอย่างแคนาดาและสิงคโปร์ ทั้งนี้ ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ในเชิงนโยบาย เพื่อวางแผนการป้องกันและฟื้นฟูในระดับชุมชนหรือระดับประเทศได้อีกด้วย
        ในขณะที่การใช้ Blockchain เพื่อลดการฟอกเงินและเพิ่มความโปร่งใสได้ Blockchain จึงเป็นเทคโนโลยีที่มีลักษณะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงย้อนหลังได้ (immutable) และตรวจสอบย้อนหลังได้ทุกธุรกรรม (traceability) ทำให้เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการนำมาใช้ในธุรกรรมการเงินของคาสิโน ระบบนี้จึงช่วยลดความเสี่ยงในการฟอกเงิน โดยเฉพาะในระบบคาสิโนที่มีการหมุนเวียนเงินสดจำนวนมาก เนื่องจากทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นจะถูกบันทึกลงบนเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ที่ตรวจสอบได้โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ Blockchain ยังสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบการคาสิโนในสายตาของหน่วยงานกำกับดูแลและประชาชนทั่วไป อีกทั้งยังสามารถบูรณาการเข้ากับระบบภาษีดิจิทัลของรัฐ เพื่อจัดเก็บภาษีได้อย่างแม่นยำและโปร่งใส ลดการหลีกเลี่ยงภาษี ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของธุรกิจพนันในระบบเถื่อน พร้อมกันนี้ ระบบฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อการควบคุมแบบบูรณาการการมีฐานข้อมูลกลางที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐจะทำให้การควบคุมกิจกรรมการพนันมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และระบบดังกล่าวยังสามารถใช้ในการติดตามผู้ที่เคยอยู่ในโปรแกรมบำบัด ติดตามพฤติกรรมหลังบำบัด และตรวจสอบการฟื้นตัวของผู้เล่นได้ในระยะยาว ส่วนระบบ Early Warning สำหรับครอบครัวหรือผู้ดูแลระบบ Early Warning มีบทบาทสำคัญในการแจ้งเตือนบุคคลรอบข้างของผู้เล่น เช่น ครอบครัวหรือผู้ดูแล ให้สามารถรับรู้พฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การติดการพนันได้ล่วงหน้า
        สรุปแล้ว เทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันปัญหาก่อนจะลุกลาม แต่ยังเสริมสร้างบทบาทของครอบครัวและเครือข่ายสังคมให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแล ช่วยเหลือ และฟื้นฟูผู้เล่นได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะได้ผลดีกว่าการควบคุมโดยรัฐเพียงฝ่ายเดียว ทั้งยังเป็นแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับแนวคิด “การกำกับดูแลร่วม” (co-regulation) ที่หลายประเทศเริ่มนำมาใช้ในการจัดการอุตสาหกรรมการพนัน

แนวทางการนำไปใช้จริงในบริบทประเทศไทย
        แนวทางที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อจัดการผลกระทบทางสังคมจากการเปิดบ่อนคาสิโนเสรีในประเทศไทยจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยมีการพัฒนาระบบนิเวศด้านข้อมูล (Data Ecosystem) ที่เชื่อมโยงหน่วยงานรัฐและเอกชนในลักษณะของเครือข่ายข้อมูลบูรณาการ ซึ่งรวมถึงการสร้างฐานข้อมูลผู้เล่น ระบบประวัติทางการเงิน ระบบการวิเคราะห์พฤติกรรมผ่าน AI และแพลตฟอร์มกลางที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเข้าถึงได้ โดยอยู่ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และข้อกำหนดด้านจริยธรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิ์และการเลือกปฏิบัติ อีกประการหนึ่งคือการส่งเสริม การจัดตั้งศูนย์ควบคุมและวิเคราะห์ความเสี่ยงระดับชาติ ซึ่งอาจอยู่ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะกรรมการกำกับคาสิโนแห่งชาติ (ในกรณีมีการจัดตั้ง) โดยศูนย์ฯ นี้จะเป็นหน่วยงานกลางในการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงระบบ ทั้งในด้านสังคม จิตวิทยา เศรษฐกิจ และความมั่นคง พร้อมทั้งประสานงานกับท้องถิ่นเพื่อออกมาตรการเชิงรุก เช่น การบำบัดผู้เล่นที่มีความเสี่ยงสูง หรือการจัดเวทีชุมชนเพื่อรับฟังผลกระทบในพื้นที่
        ส่วนในระดับปฏิบัติการ ยังควรมีการพัฒนา แอปพลิเคชันหรือระบบแจ้งเตือนแบบ Early Warning สำหรับครอบครัว และผู้ดูแล โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น เยาวชน หรือผู้มีภาวะเปราะบางทางการเงิน ระบบดังกล่าวควรใช้โมเดลพฤติกรรมจาก Big Data เพื่อระบุแนวโน้มการเสพติด และส่งสัญญาณเตือนไปยังหน่วยให้คำปรึกษาแบบเรียลไทม์
        จากที่กล่าวมาข้างต้น สรุปว่า การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน เช่น ชมรมเฝ้าระวังผลกระทบจากการพนันในระดับชุมชน หรือสื่อพลเมืองที่ติดตามการดำเนินงานของคาสิโน เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จำเป็นต้องส่งเสริมอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดการถ่วงดุลอำนาจระหว่างรัฐและผู้ประกอบการ และเพื่อป้องกันไม่ให้การดำเนินนโยบายนี้กลายเป็นช่องทางในการเพิ่มความเหลื่อมล้ำหรือสร้างผลประโยชน์ให้กลุ่มทุนโดยปราศจากความรับผิดชอบต่อสังคม

บทสรุป
        ในภาพรวมแล้ว บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าเทคโนโลยีสารสนเทศมีศักยภาพในการเป็นกลไกสำคัญในการลดผลกระทบทางสังคมจากการเปิดบ่อนคาสิโนเสรี หากมีการวางแผนและออกแบบระบบให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย โดยเทคโนโลยีสามารถถูกนำมาใช้ในการตรวจสอบ ติดตาม และควบคุมพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดปัญหาทางสังคมและสามารถเสริมสร้างระบบการบริหารจัดการคาสิโนให้มีความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และยั่งยืนในระยะยาวได้ อย่างไรก็ตาม การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีจะไม่สามารถดำเนินการไปอย่างมีประสิทธิภาพได้ หากขาดการกำกับดูแลที่เข้มงวดและการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาควิชาการ และภาคประชาสังคม ทั้งนี้เพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากอุตสาหกรรมคาสิโน กับการรักษาความมั่นคงทางสังคมและคุ้มครองประชาชนจากผลกระทบด้านลบของการพนัน โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น เยาวชนและครอบครัว จึงควรส่งเสริมการวิจัยอย่างต่อเนื่องเพื่อประเมินประสิทธิภาพของมาตรการเทคโนโลยี และพัฒนานโยบายที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมและเทคโนโลยีในอนาคตอย่างยืดหยุ่น

บรรณานุกรม

Grinols, E. L., & Mustard, D. B. (2006). Casinos, crime, and community costs. The Review of Economics and Statistics, 88(1), 28–45. https://doi.org/10.1162/rest.2006.88.1.28.

KPMG. (2019). Technology and responsible gambling: How tech innovation is shaping casino regulation. Retrieved from https://home.kpmg/xx/en/home.html.

Marquez, P. (2018). Casino regulation and responsible gambling in Singapore. Asian Journal of Gambling Issues and Public Health, 9(1), 1–12. https://doi.org/10.1186/s40405-018-0033-7.

Wong, I. A., & Lee, H. Y. (2020). Problem gambling and socio-economic impact: A review of regulatory frameworks. International Gambling Studies, 20(3), 456–473. https://doi.org/10.1080/14459795.2020.1778342.

Bostrom, R. P., & Heinen, J. S. (1977). MIS problems and failures: A socio-technical perspective. MIS Quarterly, 1(3), 17–32. https://doi.org/10.2307/248710.

Mumford, E. (2006). The story of socio-technical design: Reflections on its successes, failures and potential. Information Systems Journal, 16(4), 317–342. https://doi.org/10.1111/j.1365-2575.2006.00221.x.

Stilgoe, J., Owen, R., & Macnaghten, P. (2013). Developing a framework for responsible innovation. Research Policy, 42(9), 1568–1580. https://doi.org/10.1016/j.respol.2013.05.008.

Trist, E. (1981). The evolution of socio-technical systems: A conceptual framework and an action research program (Occasional Paper No. 2). Toronto: Ontario Ministry of Labour. Retrieved from https://coevolving.com/Commons/Trist_EvolutionOfSocioTechnicalSystems1981.pdf.

สารบัญ

เนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่านหรือไม่ โปรดให้คะแนน

น้อยที่สุดน้อยมากมากที่สุด (1 votes, average: 4.00 out of 4)
Loading…
Views : 2 views