
การเคลื่อนที่ของวัตถุในกรณีที่มีแรงต้านการเคลื่อนที่

การเคลื่อนที่ของวัตถุที่มีแรงต้านการเคลื่อนที่นั้นมีหลายชนิด
โดยอาจจะเรียกรวมๆ ว่าเป็นแรงเสียดทาน แต่สามารถแยกย่อย
เป็นกรณีที่เป็น แรงเสียดทานระหว่างผิวของของแข็งสองชนิด
หรือ อาจจะเป็น แรงเสียดทานของวัตถุที่เคลื่อนที่ในของไหลเช่น
น้ำ หรือ อากาศ ก็ได้
2-11-1 การเคลื่อนที่ของวัตถุบนผิวไม่เรียบ (Motion
on a Rough Surface) |
 |

เมื่อวัตถุมีการเคลื่อนที่ผ่านน้ำ
อากาศ หรือบนพื้นผิว โดยธรรมชาติแล้ว ย่อมเกิดความต้านทานการเคลื่อนที่ต่อวัตถุดังกล่าวขึ้น
เนื่องจาก อันตรกิริยาระหว่างผิววัตถุกับตัวกลางนั้นๆ
ซึ่งในทางฟิสิกส์ มีปริมาณที่บ่งบอกถึงสภาพความต้านทานดังกล่าวเรียกว่า
แรงเสียดทาน (frictional force)

ถ้ามีการออกแรงกระทำต่อก้อนวัตถุที่วางอยู่บนพื้นด้วยแรง

ในแนวระดับแล้วก้อนวัตถุยังคงอยู่นิ่ง แสดงว่ามีแรงในทิศทางตรงข้ามกับแรง

กระทำต่อวัตถุก้อนนั้น แรงดังกล่าวคือ แรงเสียดทาน,

,
นั่นเอง แรงเสียดทานนี้มีสาเหตุมาจากความไม่เรียบของหน้าสัมผัสของก้อนวัตถุและพื้น
ซึ่งจากกฎข้อที่หนึ่งของนิวตันพบว่าตราบใดที่ก้อนวัตถุยังอยู่นิ่งหรืออยู่ในสภาพสมดุล
จะได้ว่า

โดยแรงเสียดทานที่ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุในกรณีนี้เรียกว่า
แรงเสียดทานสถิต (static friction,

)
(รูปที่ 2-10)

รูปที่ 2-10 แสดงสาเหตุการเกิดแรงเสียดทานการเคลื่อนที่ของวัตถุ
(ก) แสดงแรงเสียดทานสถิต (ข) แสดงแรงเสียดทางจลน์
|

ถ้าออกแรงเพิ่มมากขึ้น
แต่ก้อนวัตถุยังไม่เคลื่อนที่ แสดงว่าแรงเสียดทานสถิต
ที่ต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุก็มีค่าเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการออกแรงมากขึ้นถึงค่าๆ หนึ่ง วัตถุจะเริ่มเคลื่อนที่
ณ จุดนั้นแรงที่กระต่อวัตถุจะมีขนาดเท่ากับแรงเสียดทานสถิตสูงสุด

จากนั้นวัตถุเริ่มเคลื่อนที่ แต่ยังคงมีแรงเสียดทานต้านการเคลื่อนที่ของวัตถุอยู่
แรงเสียดทานที่ต้านทานการเคลื่อนที่ของวัตถุในกรณี นี้เรียกว่า
แรงเสียดทานจลน์ (kinetic friction,

)
ดังแสดงในรูปที่ 2-10 (ข) ถ้าแรงกระทำต่อก้อนวัตถุ มีค่ามากกว่าแรงเสียดทานจลน์

ก้อนวัตถุดังกล่าวจะเคลื่อนที่ด้วยความเร่ง (ตามกฎข้อที่สองของนิวตัน)
แต่ถ้าแรงกระทำดังกล่าวมีขนาดเท่ากับแรงเสียดทานจลน์

วัตถุจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วคงที่ ตามกฎข้อที่หนึ่งของนิวตัน

จากการทดลองพบว่า

และ

แปรผันตรงกับแรงในแนวตั้งฉาก,

,
ที่ผิวสัมผัสกระทำต่อก้อนวัตถุ โดยสามารถเขียนเป็นสมการได้ดังนี้

โดยที่

และ

คือ สัมประสิทธิ์ของความเสียดทานสถิตและจลน์ตามลำดับ

เครื่องหมาย
≤ ในกรณีของ

มีความหมายว่า แรงเสียดทานสถิตมีค่าได้ตั้งแต่ศูนย์
(เมื่อไม่มีแรงภายนอกมากระทำต่อวัตถุ) จนกระทั่งเท่ากับ

ซึ่งก็คือแรงเสียดทานสถิตสูงสุดนั่นเอง
โดยเป็นแรงต้านก่อนที่วัตถุจะเริ่มเคลื่อนที่ การใช้สูตรของ

จึงต้องระวังด้วยว่าเป็น

สูงสุดหรือไม่ ถ้าไม่เป็นกรณีที่มีค่าสูงสุดก็ไม่สามารถแทนค่า

ด้วย

ได้

เครื่องหมาย
= สำหรับในกรณีของ มีความหมายว่า

แรงเสียดทานจลน์มีค่าคงที่ตลอดเวลา
|
ตัวอย่างที่ 2-4 |
 |
จากรูปแสดงให้เห็นถึงรถยนต์กำลังวิ่งเป็นวงกลมในแนวระดับด้วยความเร็วคงที่
20 m/s โดยที่รัศมีของ วงกลมเท่ากับ 190 m จงหาว่าสัมประสิทธิ์ความเสียดทาน
ควรมีค่าอย่างน้อยที่สุดเท่าใดจึงจะยังคงทำให้รถวิ่งเข้าทางโค้งโดยไม่ไถล
และบอกด้วยว่า สัมประสิทธิ์ความเสียดทานที่เป็นคำตอบนั้นเป็น

หรือ
วิธีทำ
รถยนต์ไม่ได้ไถลออกด้านนอก
แสดงว่าไม่มีการเคลื่อนที่ออกด้านนอก จึงต้องใช้แรงเสียดทานสถิต
ไม่ใช่แรงเสียดทานจลน์
แรงเสียดทานสถิตนี้จะทำหน้าที่เป็นแรงสู่ศูนย์กลาง
ทำให้ได้ว่า
|