รังไข่ตั้งอยู่ที่อุ้งเชิงกราน 2 ข้างของมดลูก ทำหน้าที่สร้างเซลล์สืบพันธุ์และเป็นต่อมไร้ท่อโดยผลิตฮอร์โมนเพศหญิง คือฮอร์โมนอีสโทรเจน (estrogen ออกเสียงอีกอย่างได้ว่า เอสโทรเจน) และ         โพรเจสเทอโรน (progesterone) ซึ่งเป็นสเตรอยด์   ระดับของฮอร์โมนจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของรอบประจำเดือน

ตำแหน่งของรังไข่ในร่างกายผู้หญิง

 

อวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิง

 

      ไข่ซึ่งเป็นเซลล์สืบพันธุ์มีการพัฒนามาตั้งแต่เซลล์เพศ(germ cell) ของตัวอ่อน ซึ่งเรียกว่าเซลล์เพศ ขณะอยู่ในครรภ์จะมีการแบ่งเซลล์แบบไมโตทิกเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อแรกเกิดจะมีไข่ประมาณ 2 ล้านใบ โดยครึ่งหนึ่งอยู่ในระยะเสื่อมสลายหรือฝ่อ (atresia) ซึ่งเกิดขึ้นตลอดเวลา

      หลังจากนั้นโอโอโกเนียมจะมีการแบ่งเซลล์แบบไมโอซีส 1 (meiosis1) เพื่อลดจำนวนโครโมโซมลงครึ่งหนึ่งให้พร้อมในการรวมตัวกับอสุจิแต่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์จะหยุดอยู่ที่ระยะ โปรเพส 1 ประมาณเดือนที่ 3 ของการเจริญอยู่ในครรภ์ เซลล์ไข่จะแบ่งตัวถึงขั้นที่1 (primary oocyte) ซึ่งบรรจุอยู่ในถุงไข่ขั้นที่1 (primary follicle)

      เซลล์ของไข่ที่มาหยุดอยู่ที่ระยะโพรเพสนี้จะมีเซลล์มาห้อมล้อมกลายเป็นถุงไข่อ่อนตั้งต้น (primordial follicle) เซลล์เหล่านี้ต่อมาเปลี่ยนเป็นเซลล์แกรนูโลซา (granulosa cell) ทำหน้าที่ส่งอาหารให้ไข่อ่อน เซลล์ของไข่อ่อนที่ติดกับเยื่อฐานเซลล์จะเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ทีคา (theca cell) ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือทีคาด้านนอก(theca externa) และทีคาด้านใน(theca interna) เป็นที่สังเคราะห์ฮอร์โมนได้

      ถุงไข่อ่อนจะอยู่ในระยะถุงไข่ขั้นที่ 1 (primary follicle) นี้ไปจนเข้าสู่วัยสาวก่อนไข่ตก

 

      1. ทีคา อินเทอร์นาเซลล์ ( theca interna cell)

      ทำหน้าที่สร้างฮอร์โมนแอนโดรเจนผ่านเข้าสู่เซลล์แกรนนูโลซา หลังจากนั้น เอนไซม์อะโรมาเทส จะเปลี่ยนแอนโดรเจน( เช่น เทสโทสเทอโรน) ไปเป็นอีสโทรเจน เข้ากระแสเลือดไปที่อวัยวะเป้าหมาย เช่น ที่สมอง หลอดเลือด อวัยวะสืบพันธุ์ ระบบการขับถ่ายปัสสาวะ เป็นต้น

 

      2. ลูเทียว เซลล์ (luteal cell)

      หลังจากตกไข่แล้ว เซลล์แกรนูโลซาจะเปลี่ยนไปเป็นเซลล์ลูเทียว ทำหน้าที่ในการสร้างฮอร์โมน          โพรเจสเทอโรนจำนวนมาก และมีการสร้างฮอร์โมนอีสโทรเจนบ้างเล็กน้อย

คลิกเพื่อดูภาพเคลื่อนไหว

การเจริญเติบโตของถุงไข่อ่อนถูกกระตุ้นโดย FSH และLH ที่จับกับตัวรับสัญญาณบนเยื่อเซลล์แกรนูโลซาและทีคาเซลล์

       เมื่อเข้าสู่วัยสาวจะเหลือไข่ประมาณ 400,000 ใบ และมีเพียง 8,000 ใบที่เจริญเติบโตต่อ แต่จะมีเพียง 300 ถึง 400 ใบเท่านั้นที่จะเจริญจนถึงระยะการตกไข่

 

      - ฮอร์โมนอีสโทรเจน (estrogen hormone)

      - ฮอร์โมนโพรเจสเทอโรน (progesterone hormone)

     - การทำงานร่วมกันของฮอร์โมนอีสโทรเจนและโพรเจสเทอโรน

      - ประโยชน์ของความรู้ด้านฮอร์โมนเพศ