การเกิดสารแปลกปลอมที่เป็นสารประกอบคีโตโปรเฟนเมทิลเอสเทอร์ในกระบวนการวิเคราะห์ยาในปัสสาวะม้าด้วยวิธี GC–MS โดยใช้วิธีการสกัดตัวอย่างแบบ liquid-liquid extraction ในสภาวะที่เป็นด่าง
เรื่อง : ดร.จักษวัชร์ สง่าวิทยากร, ผศ. ดร.ภิรมย์ เชนประโคน, รศ. ดร.ประพิณ วิไลรัตน์, รศ. ดร.รัตติกาล จันทิวาสน์
จุดประสงค์ของงานวิจัย
งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาการเกิดสารแปลกปลอมที่เป็นสารประกอบคีโตโปรเฟนเมทิลเอสเทอร์ (KME) ที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการสกัดสารตัวอย่างโดยใช้วิธี liquid-liquid extraction ในสภาวะที่เป็นด่าง (LLE) ซึ่งเป็นขั้นตอนการวิเคราะห์ยาพื้นฐานในตัวอย่างปัสสาวะม้าด้วยการวิเคราะห์แบบวิธี gas chromatography mass spectrometry (GC–MS)
ข้อค้นพบจากงานวิจัย
จากการศึกษาพบว่ามีสัญญาณที่ไม่รู้ชนิดของสารประกอบในโครมาโทแกรมของ GC–MS ในตัวอย่างปัสสาวะม้าบางตัว ซึ่งจากการวิเคราะห์เพิ่มเติมโดยการเทียบ mass spectral กับสารมาตรฐาน KME ที่สังเคราะห์ขึ้นพบว่าเป็นสารชนิดเดียวกัน แต่เนื่องจากสารประกอบ KME ไม่ใช่สารเมแทบอไลต์ของคีโตโปรเฟน (ketoprofen) ในปัสสาวะของม้า จึงสันนิษฐานว่าการเกิดขึ้นของสารประกอบ KME อาจเกิดขึ้นระหว่างกระบวนการสกัดสารตัวอย่างโดยวิธี liquid-liquid extraction ในสภาวะที่เป็นด่าง อันเป็นผลจากปฏิกิริยาระหว่างคีโตโปรเฟนในปัสสาวะม้ากับเมทานอลที่ใช้เป็นตัวทำละลายของสารมาตรฐานภายใน (internal standard) ที่เติมเข้าไป อย่างไรก็ตามจากการศึกษาไม่พบสารแปลกปลอมในตัวอย่างปัสสาวะม้าที่เป็นการทดลองควบคุมคือการทดลองในตัวอย่างที่ไม่มีคีโตโปรเฟน ถึงแม้ว่าจะเติมคีโตโปรเฟนและเมทานอลเข้าไปก็ตาม การศึกษาเพิ่มเติมพบว่าเอนไซม์ไลเปสจากแบคทีเรียในตัวอย่างปัสสาวะม้าเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดขึ้นของสารประกอบ KME สมมติฐานนี้ได้รับการยืนยันเมื่อเติมสารประกอบคีโตโปรเฟน เมทานอล และเอนไซม์ไลเปส ลงไปในตัวอย่างปัสสาวะม้าที่เป็นการทดลองควบคุม พบสารแปลกปลอมที่เป็นสารประกอบ KME เกิดขึ้น เพราะเอนไซม์ไลเปสสามารถเร่งปฏิกิริยา esterification ระหว่างสารประกอบคีโตโปรเฟนกับเมทานอลเกิดเป็นสารประกอบ KME ได้ ตามปฏิกิริยาในรูปที่ 1 นอกจากนี้จากการศึกษายังพบการเกิดสารแปลกปลอมที่เป็นสารประกอบเมทิลเอสเทอร์ของกลุ่มยา NSAID ที่หมู่คาร์บอกซิลิกอย่างฟลูนิซิน (flunixin) โดยเมื่อเติมยาฟลูนิซิน เมทานอล และเอนไซม์ไลเปสลงไปในปัสสาวะม้าที่เป็นการทดลองควบคุมพบการเกิดของสารประกอบเมทิลเอสเทอร์ของฟลูนิซิน ผลการศึกษานี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักวิทยาศาสตร์ในการวิจัยต่อยอดและการวิเคราะห์ยาในปัสสาวะของม้า

เอกสารอ้างอิง:
- Sangawitayakorn, C., Chenprakhon, P., Wilairat, P., & Chantiwas, R. (2024). Formation of ketoprofen methyl ester artifact in GC–MS analysis of basic drugs in horse urine using alkaline liquid-liquid extraction. Arabian Journal of Chemistry, 17(5), 105727.
- หน้าแรก
- EDITOR’S NOTE
- ศึกษาปริทัศน์ : การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อลดผลกระทบทางสังคมจากการเปิดบ่อนคาสิโนเสรี
- นวัตกรรมจากสถาบัน : การเกิดสารแปลกปลอมที่เป็นสารประกอบคีโตโปรเฟนเมทิลเอสเทอร์ในกระบวนการวิเคราะห์ยาในปัสสาวะม้าด้วยวิธี GC–MS โดยใช้วิธีการสกัดตัวอย่างแบบ liquid-liquid extraction ในสภาวะที่เป็นด่าง
- นวัตกรรมจากสถาบัน : การจัดการเรียนรู้โดยใช้สถานการณ์ในบริบทท้องถิ่นเป็นฐานในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและทักษะการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ เรื่อง เซต
- สาระน่ารู้ : คาสิโน: ทำให้รวยหรือจนกันแน่
- สาระน่ารู้ : จริยธรรมการวิจัย: พื้นฐานของความน่าเชื่อถือและความยั่งยืน
- สาระน่ารู้ : นวัตกรรมการศึกษาเชิงระบบบนฐานข้อมูลนักเรียน: กลไกขับเคลื่อนการศึกษาอย่างยั่งยืนในจังหวัดสมุทรสาคร
- สาระน่ารู้ : รายงานการเข้าร่วมประชุมสัมมนา The 2nd International Conference on Intelligent Technology for Educational Applications (ITEA 2025)
- สาระน่ารู้ : “รู้ทันโลก รู้ทัน AI : พ่อแม่ยุคใหม่ต้องรู้… ลูกต้องทำกิจกรรมแบบไหนถึงจะพร้อมสู้อนาคต”
เนื้อหานี้มีประโยชน์กับท่านหรือไม่ โปรดให้คะแนน




