โลกในปัจจุบันกำลังขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล หลายอุตสาหกรรมก็เริ่ม Transformation ตัวเองเข้าสู่ยุคดิจิทัล ไม่เว้นแม้แต่อุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าหลายค่ายรถยนต์เริ่มทำการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้รถยนต์สามารถขับเคลื่อนด้วยตัวเองอัตโนมัติ แม้จะยังไม่มีการจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่ก็เป็นสิ่งที่ตลาดตั้งตารอคอย ให้เทคโนโลยีขับเคลื่อนด้วยตัวเองสามารถใช้งานได้อย่างจริงจัง ปลอดภัยและถูกกฎหมาย
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอัตโนมัติ ความลับของเทคโนโลยีนี้คือ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ที่ใช้ในการประมวลผล โดยเฉพาะ AI ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ที่อยู่ใน Ecosystem ของการจราจร ยกตัวอย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่นที่ระบบไฟจราจรเชื่อมโยงเข้ากับระบบนำทาง GPS ในรถยนต์ ช่วยให้ผู้ขับไม่จำเป็นต้องสังเกตไฟจราจรบนถนน แถมระบบไฟจราจรยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ความปลอดภัยในรถยนต์อย่างระบบเบรค (เฉพาะบางรุ่นเท่านั้น) เป็นต้น
อันที่จริงจะว่าไปแล้ว ในรถยนต์ทุกวันนี้ก็มีระบบ AI ฝังอยู่ในรถยนต์ทุกคัน เริ่มจากสิ่งที่ทุกคนเคยได้ยินมานั่นก็คือ ECU (Electronic Control Unit) โดยหน้าที่หลักของ ECU คือการเก็บข้อมูลที่ได้จากเซ็นเซอร์มาประมวลผล ซึ่ง ECU ในปัจจุบันจะเน้นไปที่การควบคุมด้านเครื่องยนต์ ทั้งการสั่งจ่ายปริมาณน้ำมันเชื้อเพลิง อัตราการจุดระเบิด เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
หรือระบบถอยจอดที่เซ็นเซอร์จะแปลงแรงสะท้อนของคลื่นความถี่ เพื่อประมวลผลถึงระยะห่างที่จะถอยชน ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่มีการแสดงผลภาพการถอย ระบบจะมีการกำหนดแนวทางในการถอยที่ปลอดภัยให้ด้วย หรือระบบป้องกันการชนในรถยนต์ยุโรปที่ประมวลผลผ่านรูปแบบเซ็นเซอร์ด้านหน้ารถยนต์ หรือที่ในรถบางรุ่นมีการเตือนจุดอับสายตาบนกระจกด้านข้าง เหล่านี้คือรูปแบบเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลและนำมาประมวลผล เฉกเช่นเดียวกับรูปแบบการทำงานของ AI
ปัจจุบันเริ่มมีบางค่ายรถยนต์นำเทคโนโลยีกึ่ง AI เข้ามาติดตั้งในระบบต่างๆ ของรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟหน้าที่จะลดความเข้มข้นของแสงไฟเมื่อมีรถอยู่ด้านหน้าหรือมีรถสวนมา ระบบป้องกันการขับออกนอกเลนโดยไม่รู้ตัว ระบบถอยจอดเองอัตโนมัติ
ที่มา: https://www.marketingoops.com/news/brand-move/subaru/