Forum

น้ำหอม เสน่ห์แห่งกา...
 
แบ่งปัน:
การแจ้งเตือน
ลบทั้งหมด

น้ำหอม เสน่ห์แห่งการแต้มกลิ่น ตอนที่ 1 (Perfume: The Charming Scents - Part I)

1 โพสต์
1 ผู้ใช้
0 Reactions
984 เข้าชม
(@chantarat-hir)
Active Member
เข้าร่วม: 5 ปี ที่ผ่านมา
กระทู้: 6
หัวข้อเริ่มต้น  

น้ำหอม เสน่ห์แห่งการแต้มกลิ่น ตอนที่ 1

(Perfume: The Charming Scents - Part I)

 

       น้ำหอม (Perfume) คือ สารละลายที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย หรือสารละลายหอมระเหยทำจากน้ำมันกับแอลกอฮอล์ (a mixture of fragrant essential oils or or aroma compounds) มีกลิ่นที่สกัดมาจากดอกไม้และพืชพรรณในธรรมชาติ (Natural fragrances) หรือกลิ่นสังเคราะห์ (Synthetic fragrances) ที่ถอดแบบเคมีมาจากกลิ่นหอมธรรมชาติขึ้นมาผสมอยู่ ใช้ทาหรือพ่นตามเสื้อผ้าหรือร่างกาย น้ำหอมจะระเหยออกมาพร้อมกับส่งกลิ่นหอมชวนดมออกมาด้วย มีหลายกลิ่น บางกลิ่นเกิดจากการนำกลิ่นดอกไม้หลายชนิดมาผสมกัน

       กลิ่นน้ำหอม (Perfume scents) หนึ่งในเสน่ห์ที่ทำให้ผู้ใช้งานน่าหลงใหลและสามารถดึงดูดคนรอบข้างได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งนี้ กลิ่นของน้ำหอมนอกจากบอกรสนิยมแล้ว ยังช่วยเสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้นอีกด้วย แต่กลิ่นของน้ำหอมก็มีมากมายหลายชนิดจะมีเคล็ดลับในการเลือกอย่างไร ให้เข้ากับบุคลิกและความชอบของเราให้มากที่สุด อย่างแรกที่ต้องดูคือ ความเข้มข้นของน้ำหอมทั้ง 5 ประเภท ดังนี้

Fragrance Concentration

       ระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอม (Fragrance Concentration)

  1. Parfum หรือ Perfume เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูงสุด มีหัวน้ำหอมถึง 20-40% และติดทน 8-10 ชั่วโมง เป็นน้ำหอมที่แพงที่สุดในน้ำหอมทุกประเภท เพราะมีหัวน้ำหอมเยอะ เหมาะกับคนที่ผิว Sensitive มากกว่าน้ำหอมประเภทอื่น เพราะมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อย
  2. Eau de Parfum (EDP) เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นรองจาก Parfum มีปริมาณหัวน้ำหอม 15-20% ติดทน 7-8 ชั่วโมง ราคาถูกกว่า Parfum เพราะมีแอลกอฮอล์มากกว่า ใช้งานได้ทุกวัน และเหมาะกับคนที่ผิว Sensitive ด้วย
  3. Eau de Toilette (EDT) เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นอยู่ที่ 5-15% ราคาถูกกว่า Eau de Perfum และเป็นประเภทที่คนนิยมที่สุด ติดทนประมาณ 4-6 ชั่วโมง บางคนจะเลือกใช้ตอนกลางวัน ส่วนกลางคืนจะใช้เป็น Eau de Parfum
  4. Eau de Cologne (EDC) เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยสุดในทุกประเภท มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์สูงและมีน้ำหอมเพียง 2-4% เท่านั้น ทำให้ราคาค่อนข้างถูก และได้ปริมาณที่เยอะ ติดทนประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  5. Eau Fraiche คล้ายกับ Eau de Cologne ตรงที่กลิ่นจะอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมที่น้อยกว่า มีแค่ 1-3% เท่านั้น ไม่มีส่วนประกอบของแอลกอฮอล์เพราะใช้น้ำแทน

       สำหรับบทความในครั้งนี้จะกล่าวถึงระดับความเข้มข้นของหัวน้ำหอมให้ผู้อ่านสามารถแยกประเภทของน้ำหอมที่ขายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำโดยทั่วไป เหตุใดน้ำหอมแบรนด์เดียวกันจึงมีราคาแตกต่างกัน และระดับความติดทนของกลิ่นจึงแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามอุณหภูมิก็มีผลต่อการใช้น้ำหอมด้วยเช่นเดียวกัน จึงควรเลือกประเภทน้ำหอมที่สกัดกลิ่นจากทั้งธรรมชาติและกลิ่นสังเคราะห์ให้เหมาะสมกับฤดูกาลนั้น ๆ ด้วย...ฝากติดตามบทความครั้งต่อไปด้วยนะคะ (^๐^)/

 

เอกสารอ้างอิง

  1. พรรณพร กะตะจิตต์. บทความเคมี: เคมีของน้ำหอม. SCIMATH: คลังความรู้ SciMath [อินเทอร์เน็ต]. 4 ก.ค. 2561 - [สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://www.scimath.org/article-chemistry/item/7851-2018-02-22-02-20-01
  2. mamburger. บทความ Lifestyle: 5 Levels Perfume ระดับ ความเข้มข้นของน้ำหอม ศาสตร์แห่งการแต้มกลิ่นให้ชวนหลงใหลทีละสเต็ป. The Passion [อินเทอร์เน็ต]. 2 มิ.ย. 2560 - [สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://thepassion.in.th/5-levels-perfume-concentration/
  3. little nomad. บทความ BEAUTY: รู้ลึก!! ประเภทน้ำหอม เลือกกลิ่นน้ำหอมไหนดีให้เข้ากับตัวเองและสถานการณ์ต่างๆ !!. AkeruFeed [อินเทอร์เน็ต]. 29 ก.ย. 2560 - [สืบค้นเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2562]. เข้าถึงได้จาก: https://www.akerufeed.com/beauty/type-of-perfumes-and-fragrance-category

 

เรียบเรียงและจัดทำโดย

นางสาวจันทรัตน์ หิรัญกิจรังษี
นักวิเคราะห์นโยบายและแผน
สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล


   
อ้างอิง
แท็กหัวข้อ

ทิ้งคำตอบไว้

ชื่อผู้แต่ง

อีเมลผู้เขียน

ตำแหน่ง *

 
ดูตัวอย่าง แก้ไข 0 ครั้ง บันทึกแล้ว
แบ่งปัน:
1,246,437 views since 16 August 2018