ในช่วงสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่เกิดขึ้นทั่วโลกนั้น ทำให้วิถีชีวิตประจำวันในปัจจุบันของคนเราเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องการเรียนที่ต้องเรียนออนไลน์ การทำงานที่ต้อง Work from home หรือแม้กระทั้งการพักผ่อน ที่หลายๆคนหันมาใช้บริการวิดีโอสตรีมมิ่ง “Video Streaming” กันแน่นอน
วิดีโอสตรีมมิ่งมีมานานแล้วโดนเริ่มจากต่างประเทศและขยายตัวเข้าสู่ตลาดในไทย ไม่ว่าจะเป็น Youtube Netflix เป็นต้น การแข่งขั้นกันนั้นก็มีแนวทางที่พยายามดึงความชัดเจนของกลุ่มผู้บริโภคออกมา เช่น Youtube เจ้าหลักที่มีวีดีโออัพโหลดจากผู้ใช้ทั่วไป ก็ลงมาทำ premium เพื่อให้บริการ โดยสร้าง series เป็นของตัวเอง(แต่ก็ยังไม่มีบรรยายไทยนะ) โดยถ้าใครอยากจะดูต้องยอมจ่ายค่าบริการ หรือ Netflix ที่นอกจากทีหนัง และซีรี่ย์ที่เคยออกฉายไปแล้ว ก็พยายามสร้างของใหม่ๆที่ฉายเฉพาะที่นี่ที่เดียวออกมา หรือ viu ที่หาซีรี่ที่เหมาะเน้นเอาใจฝั่งเอเชีย เป็นต้น
ในปี 2021 สถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก็ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง นั้นทำให้การแข่งขันของผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งยิ่งมีมากขึ้น ยิ่งดิสนีย์ (Disney) ได้เปิดตัวเข้ามาร่วมวงแพลตฟอร์มบริการวิดีโอสตรีมมิ่ง ในชื่อ Disney+ ส่งผลให้การแข่งขันในตลาดนี้น่าจะร้อนแรงและดุเดือดมากกว่าที่เคย โดยจะเริ่มเปิดให้บริการที่สหรัฐอเมริกาเป็นตลาดแรก ส่วนในไทยก็แว่วๆว่าจะมาเร็วๆนี้
โดย Disney+ จะเน้นคอนเท้นที่แตกต่างจากเจ้าอื่นๆ เพราะดิสนีย์ถือลิขสิทธิ์ของ Marvel, Starwar และ National Geographic เป็นต้น ซึ่งมีฐานผู้ชื่นชอบอยู่แล้ว และสามารถเข้าถึงได้ทุกวัย นั้นยิ่งทำให้เกิดความแปลกใหม่ในวงการวิดีโอสตรีมมิ่งอย่างแน่นอน (ผู้เขียนก็รอสมัครอยู่เช่นกัน) นั้นยิ่งทำให้การแข่งขั้นในปี 2021 ยิ่งรอนแรงขึ้น เพราะผู้ชมสามารถเลือกได้ว่า เขาเหมาะสมกับเนื้อหาแบบไหน การให้บริการแบบไหน ราคาเท่าไหนที่ควรจะจ่าย ทั้งหมดที่มาพูดคุยกันนี้มันแค่เริ่มต้น ต้องรอดูกันยาวๆว่าปีนี้แต่ละผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งจะนำเสนออะไรใหม่ๆแก้ผู้บริโภคกันบ้าง และยิ่งถ้าสถานการณ์ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ยังคงอยู่อย่างยาวนาน เราอาจจะต้องใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ไปดูหนังที่โรงหนังไม่ได้ วิดีโอสตรีมมิ่ง “Video Streaming” อาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะกับโลกของเราก็เป็นได้...
ผู้เขียน : จตุรงค์ พยอมแย้ม (PorDeeDum)