ในช่วงปลายสมัยไมโอซีนมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลให้สภาพ
แวดล้อมในธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไป เช่น ป่าไม้ลดลงจนบางแห่งกลายเป็นทุ่งหญ้า
ทำให้ที่อยู่อาศัยและปริมาณอาหารเปลี่ยนแปลงไป เกิดการแก่งแย่งกันของสิ่งมีชีวิต
ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสายวิวัฒนาการของเอพไปสู่บรรพบุรุษของมนุษย์ที่สามารถยืนตัวตรงได้
มีการลดขนาดเขี้ยวและขยายขนาดฟันกราม
บรรพบุรุษของมนุษย์เริ่มปรากฏครั้งแรกในสมัยไมโอซีน
ในราวประมาณ 4.3 ล้านปีก่อน บรรพบุรุษที่มีความคล้ายมนุษย์มากที่สุดคือ
ออสทราโลพิเทคัส (Australopithecus)
ในปี พ.ศ.2518
นักบรรพชีวินได้ค้นพบซากดึกดำบรรพ์ที่มีความสมบูรณ์ประมาณ 40
เปอร์เซ็นต์ในเอทิโอเปีย และได้ตั้งชื่อตามบริเวณที่พบคือ Afar
Triangle ว่า Australopithecus afarensis คาดว่า A.
afarensis มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 2.9-3.9 ล้านปีก่อน จากหลักฐานของลักษณะรอยเท้าที่ปรากฏในเถ้าภูเขาไฟ
จากกระดูกกะโหลกศีรษะและกระดูกเชิงกรานทำให้สันนิษฐานได้ว่า
A. afarensis มีแขนยาวจึงน่าสามารถดำรงชีวิตบางส่วนอยู่บนต้นไม้และสามารถเดินสองขาบนพื้นดินได้ดีแต่ก็ยังไม่เหมือนมนุษย์
มีความจุสมองประมาณ 400-500 ลูกบาศก์เซนติเมตร มีฟันเขี้ยวที่ลดรูปลง
ปัจจุบันเชื่อว่า A. afarensis เป็นบรรพบุรุษของ
ออสทราโลพิเทคัสสปีชีส์อื่นๆ และมนุษย์จีนัสโฮโมด้วย
ภาพสันนิษฐานลักษณะของ
A. afarensis
จากการศึกษาซากดึกดำบรรพ์รอยเท้าที่ปรากฏในเถ้าภูเขาไฟ
ซากดึกดำบรรพ์ของ A. afarensis พบที่เอธิโอเปีย
หรือที่นักบรรพชีวินเรียกว่า ลูซี สูงประมาณ 1 เมตร
ซากดึกดำบรรพ์กระดูกกะโหลกศีรษะของ Australopithecus
|