สปริงอันหนึ่งมีค่า k=30N/m โดยสปริงอันน ี้มีการตอบสนองต่อแรงที่มากระทำเป็นไปตามกฎของ
Hooke จงหางานที่ทำโดยสปริง ในการเปลี่ยนจากความยาว
60 cm ไปเป็น 50 cm ถ้าในขณะที่สปริงอยู่ที่ตำแหน่งสมดุล
ความยาวของสปริงคือ 40 cm
วิธีทำ
จากสมการที่
3-12
การกระจัดในสมการของงานนี้
จะต้องวัดจากตำแหน่งสมดุล ทำให้ได้
หมายเหตุ
ถ้าเปลี่ยนโจทย์ว่าเป็นงานโดยสปริงในการเปลี่ยนความยาวจาก
50 cm ไปเป็น 60 cm เมื่อเราแทนค่าในสูตรจะได้
-0.45J ซึ่งเครื่องหมายลบเกิดขึ้นเพราะโดยปกติแล้ว
สปริงที่ยาวกว่าความยาวสมดุลอยู่แล้ว จะไม่ยาวขึ้นเอง
เนื่องจากในกรณีที่ความยาวของสปริงเป็น 50 cm
จะมีเฉพาะแรงดึงกลับให้สปริงสั้นลง เครื่องหมายลบในส่วนนี้
จึงบอกว่ามันไม่เกิดขึ้นเอง ในขณะเดียวกัน ถ้าเราสนใจเรื่องเครื่องหมายของงาน
จะพบว่างานที่มีเครื่องหมายเป็นลบ ก็สามารถเกิดขึ้นได้แต่จะเป็นงานเนื่องจากแรงต้าน
เช่น งานเนื่องจากแรงเสียดทานเป็นต้น
อีกกรณีหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวอย่างที่
3-3 คือ โจทย์อาจจะถามถึงงานที่เราต้องทำในการดึงให้สปริงมีความยาวเพิ่มจาก
50 cm ไปเป็น 60 cm ซึ่งในกรณีนี้เราต้องออกแรงจริงๆ
และทำให้เกิดการกระจัด ในทิศเดียวกับแรงของเราทำให้งานมีค่าเป็นบวก
ซึ่งจะเป็นบวกเท่าใดนั้น ก็ขึ้นกับว่าเราออกแรงเท่าใด
แต่อย่างน้อยต้องมากกว่าแรงที่สปริงดึงไว้
เราจึงมักจะพบโจทย์ในทำนองที่ว่า จงหางานที่น้อยที่สุด
ที่เราต้องทำในการดึงสปริงให้มีความยาวเพิ่มจาก
50 cm ไปเป็น 60 cm ซึ่งเราควรจะเข้าใจว่า
แรงที่เราใช้จะมีขนาดเท่ากับแรงดึงของสปริงพอดีแต่มีทิศทางตรงกันข้าม
ทำให้งานที่ต้องทำคือ+0.45 หรือเราอาจจะจำว่าเราสามารถใช้สมการที่
3-12 สำหรับงานน้อยสุดที่เราต้องทำได้เป็น
ซึ่งต้องระวังมากเป็นพิเศษเพราะในกรณีนี้
จะมี เป็นเทอมแรกแทนที่จะเป็นเทอมที่สอง จะเห็นว่าการใช้สูตรนี้ต้องจำเงื่อนไขหลายๆอย่าง
ทางที่ดีคือควรจะทำความเข้าใจกับเรื่องงานและพลังงานมากกว่าจะจำสูตรไปใช้