จากสาหร่ายสีเขียวที่มีวิวัฒนาการต่อไปเป็นพืชนั้นสิ่งสำคัญที่เป็นวิวัฒนาการก้าวสำคัญคือ
พืชได้พัฒนาวงชีวิตแบบสลับ (alteration of generation) ขึ้นมาเพื่อปกป้องเซลล์สืบพันธุ์จากภาวะแห้ง การลดการสูญเสียน้ำด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การสร้างปากใบและการพัฒนาการลำเลียงน้ำเพื่อหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อ ในขั้นแรกมีสายวิวัฒนาการแยกออกเป็นสองสาย
คือ กลุ่มพืชไม่มีเนื้อเยื่อลำเลียง
(nonvascular plant) และกลุ่มพืชมีเนื้อเยื่อลำเลียง
(vascular plant)
หมายเหตุ ในที่นี้คำว่า "เนื้อเยื่อ" หมายถึง เนื้อเยื่อที่ใช้ลำเลียงน้ำ (xylem) และเนื้อเยื่อที่ใช้ลำเลียงอาหาร (phloem)
สายวิวัฒนาการของพืชบกซึ่งเริ่มต้นในช่วงยุคออร์โดวิเชียนในมหายุคพาลีโอโซอิกประมาณ 400 ล้านปีมาแล้ว แบ่งเป็นกลุ่มพืชไม่มีเนื้อเยื่อลำเลียง และกลุ่มพืชมีเนื้อเยื่อลำเลียง
ซึ่งประกอบด้วย พืชมีเนื้อเยื่อลำเลียงแบบไม่มีเมล็ด (seedless
vascular plant)
พืชเมล็ดเปลือย (gymnosperm) และพืชดอก (angiosperm)
เมื่อพูดถึงการศึกษาวิจัยทางพฤกษศาสตร์ไม่ว่าเรื่องใดๆ
บุคคลสำคัญที่เราจะต้องระลึกถึงในผลงานซึ่งมีประโยชน์ในการศึกษาชีววิทยาต่อมาจวบจนปัจจุบันคือ
คาโรลัส ลินเนียส (Carolus Linnaeus) หรือ คาร์ล ฟอน ลินเน่ย์
(Carl von Linn') (พ.ศ. 2250 - 2321) เป็นนักพฤกษศาสตร์ชาวสวีเดน
ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็นบิดาแห่งวิชาอนุกรม-วิธานของการจำแนกทางชีววิทยา
เขาได้ริเริ่มการจัดแบ่งสิ่งมีชีวิตออกเป็นหมวดหมู่ และการประยุกต์ใช้ระบบการเรียกชื่อสิ่งมีชีวิตแบบทวินามหรือ ไบโนเมียล
โนเมนเคลเจอร์ (binomial nomenclature) และในปีพ.ศ.
2550 ที่ผ่านมาเป็นเวลาครบรอบ 300 ปีหลังที่ลินเนียสถือกำเนิดขึ้น
เราจึงถือโอกาสนี้ในการรำลึกถึงสิ่งที่ลินเนียสได้สร้างสรรค์ขึ้นต่อวงการชีววิทยาอันเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาในเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตด้วย
คาโรลัส ลินเนียส
|
|