จุลสารนวัตกรรม ฉบับที่ 63 – สาระน่ารู้

         สาระน่ารู้ฉบับนี้ ผู้เขียนสนใจนำเสนอถึงเรื่อง กำลังใจต้านภัยโควิด-19 พอดีเห็นข่าวความเครียดของคนไทยในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว ทำให้เกิดคำถามและแง่คิดในเชิงคำตอบขึ้นมาในใจ เลยอยากจะนำมาเล่าให้ทุกท่านได้อ่านกัน เผื่อนำไปประกอบใช้เป็นแง่คิดแก่ตนเองและบอกกล่าวคนรอบข้างได้บ้าง
        ปกติคนเราเวลามีทุกข์หรือเครียด ก็มักจะหาอะไรทำ เพื่อจะได้ลืมสิ่งที่เครียด เช่น เครียดเพราะหนี้สิ้น เครียดเพราะการเรียนการสอนออนไลน์ เครียดเพราะออกไปไหนมาไหนเหมือนแต่ก่อนไม่ได้ หรือเครียดเพราะปรับตัวยังไม่ได้ เป็นต้น ปัญหาความเครียดเหล่านี้ ดูเหมือนว่าจะแก้ยาก เพราะเกี่ยวพันกับหลายอย่างที่อยู่ในบริบทสังคม แต่ถ้าคิดให้ดีแล้ว ในสังคมที่เราอยู่นี้ ไม่ว่าจะเครียดสักปานใด ย่อมมีทางออกเสมอ เพียงแต่ว่าต้องค่อย ๆ คิด อย่าพึ่งด่วนสรุปว่าปัญหาของตนเองตันแล้วหรือหมดทางออกแล้ว ดังนั้น ผู้เขียนจึงขอเสนอมิติการมองในปัญหาความเครียดที่แต่ละคนกำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ ด้วยการสร้างระบบความคิดหรือมุมมองขึ้นในตนเอง ดังนี้
        1. ตัวเราเองต้องหัดตั้งคำถามต่อตัวเราอยู่เสมอว่าที่ผ่านมานั้นเคยเจอปัญหาที่หนักหน่วงแบบนี้บ้างไหม หากเคยเจอ ทำไมที่ผ่านมาจึงผ่านพ้นมาได้ หรือหากไม่เคยเจอปัญหาในลักษณะแบบนี้ ก็ต้องตั้งคำถามเหมือนกันว่าปัญหาที่ตนเรียกว่าปัญหาใหญ่นี้ต้องไม่น่าจะใช่ปัญหาสุดท้ายที่จะเจอแน่นอน ดังนั้น เมื่อตนคิดได้แบบนี้ จะทำให้ตนเองมองมิติปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่เป็นเพียงแค่ปัญหาที่เกิดขึ้นไปตามสถานการณ์เท่านั้น ต่อไปปัญหานี้ก็จะคลายตัวลง แล้วจะเกิดปัญหาใหม่ที่เล็กกว่าหรือใหญ่กว่าอีกแน่นอน จึงเป็นที่แน่ใจได้ว่าปัญหาในวันนี้ไม่ใช่ปัญหาสุดท้ายของตนและคนอื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันแน่นอน สรุปแล้ว ตนควรวางตนให้คิดเป็นให้ได้ โดยเฉพาะคิดมองปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ให้เป็น แล้วต่อไป ตนก็จะมีภูมิต้านทานต่อปัญหาทุกอย่างได้
        2. หากยังไม่สามารถมองปัญหาที่เผชิญอย่างรู้ทันและเข้าใจได้ ก็ควรใช้อีก 1 วิธี คือ การพูดคุยกับเพื่อนฝูง คนรัก หรือครอบครัวในประเด็นปัญหาที่ตนเผชิญอยู่ เมื่อพูดคุยออกไปแล้ว การวิตกกังวลในปัญหาดังกล่าวก็จะค่อย ๆ คลายตัวลงได้ ตนก็จะมีสติในการใช้ชีวิตอยู่ต่อไป ดังจะเห็นได้จากที่บางคนทำร้ายตนในตอนนี้ มักมาจากเจอปัญหาแล้วไม่บอกใคร เก็บไว้เงียบ ๆ อยู่ในใจคนเดียว การเป็นแบบนี้ย่อมไม่เป็นผลดีกับตนและคนรอบข้างเลย เพราะตนก็จะสะสมความเครียดไปโดยไม่รู้ตัวด้วย ดังนั้น จึงเสนอให้พูดคุยประเด็นปัญหาที่เผชิญอยู่กับคนรอบข้าง อย่างน้อยตนก็จะได้ผ่อนคลายความเครียดลง เผลอ ๆ บางที เมื่อพูดคุยไปแล้ว ตนก็จะได้ทางออกหรือการช่วยเหลือในบางเรื่องที่คนรอบจะพอช่วยได้บ้าง และก็จงเชื่อว่าคนที่รักและรับฟังปัญหาของตนอยู่นั้น เมื่อเขามีโอกาสช่วยเหลือ เขาจะรีบทำทันทีแน่นอน
        ดังนั้น สาระน่ารู้ฉบับนี้ จึงขอจบด้วยการขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นปัญหาอุปสรรคในชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 ไปให้ได้ด้วยกัน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่าน สู้ ๆ ค่ะ